ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2548 > มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ส่งจยย.ฝ่ากระแสตลาดอิ่มตัว
มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ส่งจยย.ฝ่ากระแสตลาดอิ่มตัว
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 18 ส.ค.48

ว่ากันว่าตลาดของรถจักรยานยนต์ ถือเป็นดัชนีสำคัญที่วัดเศรษฐกิจในระดับ "รากหญ้า" ได้เป็นอย่างดี ผ่านมากว่าครึ่งทางแล้วสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย นับตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่บรรดาผู้ผลิตต่างออกมาตีฆ้องร้องป่าว แสดงความวิตกกังวลถึงสถานการณ์ความห่วงใยกับภาวะตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ที่เข้าใกล้ "จุดอิ่มตัว"

วันนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ค่อยเป็นค่อยไป" เห็นได้จากในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ติดลบอยู่ที่ 1% แม้ว่าในตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตอยู่เพียง 0.4% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดรถจักรยานยนต์ จะมีอัตราการเติบโตน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ลดอย่างปกติในช่วงเวลาดังกล่าว

จากเดิมที่คาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์ของปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายประมาณ 2 ล้านคัน หรืออาจจะเติบโตสูงกว่าเพียงเล็กน้อย ซึ่งค่ายรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ต่างปรับกลยุทธ์ และงัดไม้เด็ดออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด รวมทั้งยึดฐานที่มั่นของลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด หรืออย่างน้อยเพียงเพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าเดิมเท่านั้น เพื่อมิให้มีส่วนแบ่งในตลาดลดน้อยลงจากเดิม

สูตรสำเร็จสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทย คือ Music Marketing ด้วยการดึงดารา-นักร้องขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดรถจักรยานยนต์ มาดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เรียกได้ว่าบรรดาค่ายชั้นนำต่างมีพรีเซ็นเตอร์เป็นดารา-นักร้องทั้งสิ้น

ฮอนด้าดึงพรีเซ็นเตอร์เจาะลูกค้า
การทำตลาดในปีนี้ของฮอนด้าต้องการสร้างความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์จากลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเน้นการทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนผู้จำหน่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความใกล้ชิด สำหรับกลุ่มเป้าหมายของฮอนด้า ต้องการเน้นไปที่กลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถอื่นๆ เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มดังกล่าว มีความสามารถและมีกำลังซื้อด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ซึ่งฮอนด้ายังคงชูจุดยืนในความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งของตลาดจักรยานยนต์ ครองส่วนแบ่งกว่า 65% ของตลาด ด้วยการใช้กลยุทธ์ music marketing เหมือนเช่นเคย และนำพรีเซ็นเตอร์ทั้งดารา-นักร้องลงพื้นที่ คืนกำไรให้กับกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด และมัดใจลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

ยามาฮ่าเน้นสร้างแบรนด์เป็นที่จดจำ
แม้ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย จะถือเป็นตลาดที่ค่อนข้างพิเศษในสายตาของนายทาคาชิ ทาจิคาวา ประธานบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีส่วนแบ่งทาง การตลาดที่แตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ ซึ่งผู้นำตลาดครองสัดส่วนในตลาดเกินกว่า 50% ส่งผลให้กลุ่มผลิตในอันดับ 2 และ 3 มีส่วนแบ่งในตลาดไม่ถึง 15% ทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่น่าศึกษาเป็นพิเศษ

หลังจากการฉลองครบรอบ 50 ปีนับจากนี้ไป แผนการตลาดของยามาฮ่ามอเตอร์ จะเน้นใน 3 ประเด็นหลัก คือ (1) การสร้างแบรนด์ให้เป็นแบรนด์เฉพาะที่ไม่มีคู่แข่ง (2) พยายามสร้างกำไรให้กลายเป็นผู้นำของตลาดรถจักรยานยนต์ และ (3) พยายามสร้างส่วนแบ่งในตลาดให้เพิ่มมากขึ้น

ส่วนหนึ่งที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนช่วยให้ยามาฮ่า ไปถึงเป้าหมายที่ 4 แสนคันในปีนี้ และมีส่วนแบ่งทางตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ หรือปี พ.ศ.2551 มียอดจำหน่ายเพิ่มเป็น 6 แสนคันนั้น นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด มองว่านอกจากการชูความเป็นผู้นำในตลาด "ออโตเมติก" และการทำตลาดในรูปแบบ music marketing ยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้ยามาฮ่า ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อย

ซูซูกิปฏิบัติการเรียกความนิยม
ค่ายซูซูกิ ดึงเอาดารานักร้องซูเปอร์สตาร์ของเอเชีย อย่าง "วัง ลีฮอม" ดาราหนุ่มชาวฮ่องกง มาประกบคู่กับนักร้องสาวสุดฮอต "อมิตา ทาทา ยัง" ที่ซูซูกิหวังให้เป็นแม่เหล็ก ช่วยดึงกลุ่มลูกค้าให้กลับมาเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ในแคมเปญ "Life is Action"

แต่งานนี้ไม่เป็นอย่างที่คิด กระแสของ 2 ซุเปอร์สตาร์ไม่สามารถช่วยเพิ่มยอดทางการขายให้กับซูซูกิ แต่อย่างใด ซึ่ง "เลิศศักดิ์ รัตนวิมาน" กล่าวว่า สาเหตุที่ยอดขายของซูซูกิต่ำกว่าเป้านั้น เหตุผลหลังมาจากการที่สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี บวกกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดผู้บริโภคเกิดภาวะชะงักงัน หรืออยู่ในภาวะที่ต้องระวังตัวเพิ่มมากขึ้น

แต่ค่ายเบอร์ 3 อย่างซูซูกิเองก็ยังคงมั่นใจกับแคมเปญ "Life is Action" ว่าจะสามารถเรียกความนิยม และความพึงพอใจของลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ซูซูกิยังได้ทุ่มงบประมาณจำนวนกว่า 15 ล้าน เพื่อออกปฏิบัติการ 15 จังหวัดทั่วประเทศ มั่นใจหลังแคมเปญกระตุ้นยอดขายเริ่มแสดงผล โดยปฏิบัติการต่อเนื่องตลอด 3 ปี

ทั้งนี้ซูซูกิเตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ 8 รุ่นใหม่ ภายใน 3 ปี โดยในปีนี้มี 2 รุ่นเริ่มทยอยออกจนครบทั้ง 8 รุ่น ทั้งนี้ไม่รวมในรุ่นที่มีการปรับเปลี่ยนไมเนอร์เชนจ์ สำหรับปีนี้ซูซูกิตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไว้ที่ 290,000 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 14-15%

คาวาซากิยอดไม่กระเตื้อง
ส่วนค่ายรถ "คาวาซากิ" ที่เปิดตัวรุ่นใหม่ ZX130 เน้นเจาะกลุ่มตลาดในสไตล์สปอร์ตนั้น นายเคนจิ คาวาโน รองประธานกรรมการ บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปีนี้คาวาซากิได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 46,000 คัน แต่หลังจากเปิดตัว ZX130 ไปแล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมารวมถึง ZX130 ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายของคาวาซากิ ให้กระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด

อาจเป็นเพราะตลาดของคาวาซากิจัดอยู่ในกลุ่ม "niche maket" หรือตลาดเฉพาะกลุ่ม ทำให้คาวาซากิเองไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แคมเปญในการจูงใจ และใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นจุดขายในการทำตลาดเหมือนเช่นค่ายอื่นๆ

ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ค่ายอื่นๆ โหมกระหน่ำสู้กันอย่างดุเดือด การเลือกหยิบยกกลยุทธ์ music marketing มาใช้ในการทำตลาด ด้วยการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นดารา-นักร้อง เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันและความคุ้มค่า ต่อความเป็นสาธารณชนในสังคมมากยิ่งขึ้น