ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2549 > 'แพล็ตตินัม' โอ่ขายจยย. 3 แสน สวนทางยอด 5 เดือน 2.5 พันคัน
'แพล็ตตินัม' โอ่ขายจยย. 3 แสน สวนทางยอด 5 เดือน 2.5 พันคัน
ที่มา – ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 20-22 ก.ค.49

"แพล็ตตินัม" สินค้าจีน-แปะแบรนด์ไทย รุกตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์ คุยโวเพิ่มยอดขายกว่าเท่าตัวสวนกระแสเศรษฐกิจ ตั้งเป้ายอดขายรถจักรยานยนต์ปีหน้า 3 แสนคัน ขึ้นท็อปทรี ทั้งที่ยอดขาย 5 เดือนแรกปีนี้ทำได้แค่ 2.5 พันคัน เหตุมั่นใจขายรถเข้าโครงการ "มอเตอร์ไซด์สำหรับผู้ใช้แรงงาน" ของสำนักงานประกันสังคม ที่กำลังอยู่ระหว่างการอนุมัติ ด้านการทำตลาดรถยนต์ เตรียมรุกคืบรถบรรทุกและแวน เครื่องยนต์เอ็นจีวี ตั้งเป้า ื คัน เสียให้โรงเรียนเทคนิคซ่อม

นายสมนึก วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แพล็ตตินัม มอเตอร์เซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์แพลทตินัม เปิดเผยว่า ในปี 2550 นั้นบริษัทได้ตั้งเป้าการจำหน่ายาสินค้ายี่ห้อแพล็ตตินัมโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้นคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้มากถึง 3 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ซึ่งตั้งเป้ายอดขายไว้ราว 1 แสนคัน นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนนำรถบรรทุกจากประเทศจีนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยภายใต้แบรนด์แพล็ตตินัมอีกด้วย โดยคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ราว 1,000 คันในปีแรก

ทั้งนี้ยอดขายรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนคันต่อปีนี้คาดการณ์ว่าจะมาจากการเข้าร่วมโครงการ"มอเตอร์ไซค์สำหรับผู้ใช้แรงงาน" โดยได้เตรียมลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นหรือเอ็มโอยู กับทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน ซึ่งโครงการ "มอเตอร์ไซค์สำหรับผู้ใช้แรงงาน" จะให้สิทธิแก่ผู้ประกันตนกับ สปส.ในการผ่อนรถจักรยานยนต์ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งแพลทตินัมตั้งเป้า ยอดขายไว้ 2 แสนคันต่อปี และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกันยายนนี้

"ยอดขายเพิ่มขึ้นนี้จะมาจากยอดของมอเตอร์ไซด์ของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเราคิดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 2 แสนคัน ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากสำนักงานประกันสังคม ส่วนยอดขายปกตินั้นก็คาดการณ์ว่าจะขายได้ราว 1 แสนคัน ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 นี้มียอดขายไปกว่า 7 หมื่นคันแล้ว ซึ่งตัวเลขตรงนี้จะมากกว่ายอดจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก"

อย่างไรก็ตามการประกาศตัวเลขยอดขายของปี 2550 ของแพล็ตตินัมนั้น มีข้อน่าสังเกตว่าข้อมูลดังกล่าวมีความแตกต่างจากรายงานยอดขายอย่างเป็นทางการจาก กรมการขนส่งทางบกค่อนข้างมาก โดยกรมการขนส่งรายงานว่า 5 เดือนแรกมียอดขายเพียง 2,565 คัน ซึ่งแตกต่างจากยอดขายที่กล่าว 7 หมื่นคันราว 6.75 หมื่นคัน นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อที่ไม่มีการจดทะเบียนค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งนี้หากว่าแพล็ตตินัมสามารถทำยอดขายได้ 3 แสนคันในปี 2550 ก็หมายความว่ามีส่วนแบ่งตลาดถึง 15% หรือมีส่วนแบ่งเป็นอันดับสองหรือสามในตลาดรถจักรยานยนต์ของไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมียอดขายราว 2 ล้านคันในปีหน้า โดยผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ต่างคาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์จะมีอัตราการเติบโตไม่มาก เนื่องจากการอิ่มตัวของตลาดและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

นายสมนึก กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทมีการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ราว 40 รุ่น ซึ่งถือว่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยในปี 2550 นั้นอาจจะไม่มีการเพิ่มจำนวนรุ่นรถจักรยานยนต์ที่จะจำหน่าย แต่จะไปเน้นการเพิ่มจำนวนเครือข่ายดีลเลอร์ทั่วประเทศให้คลอบคลุมยิ่งขึ้น

สำหรับในส่วนของรถบรรทุกที่จะเริ่มนำมาทำตลาดในปี 2550 นั้น จะเป็นรถบรรทุกประเภทที่ใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ หรือเอ็นจีวี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการประหยัดต้นทุนจากการขนส่ง โดยรถที่จะนำเข้ามามีทั้งแบบ 6 ล้อไปจนถึง 10 ล้อ ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 6 แสน- 1 ล้านบาท ซึ่งรถทุกรุ่นนี้อยู่ระหว่างการรอทดสอบมาตรฐานจากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยในส่วนของศูนย์บริการบำรุงรักษาและบริการหลังการขายนั้นคาดว่าในเบื้องต้นอาจจะใช้โรงเรียนเทคนิคตามจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ดำเนินการ โดยจะมีนักเรียนนักศึกษาเป็นผู้รับบริการดังกล่าว ซึ่งตนมั่นใจว่าคุณภาพการให้บริการของนักศึกษาเหล่านั้นจะได้มาตรฐานเทียบเท่ากับศูนย์บริการทั่วไป นอกจากนี้บริษัทยังได้วางแผนการทำตลาดรถตู้ 24 ที่นั่งและรถตู้ทั่วไปอีกด้วย โดยรถดังกล่าวจำใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติหรือเอ็นจีวีในการขับเคลื่อน โดยจะเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ และวินรถตู้

อนึ่ง แพลทตินัม เป็นแบรนด์สินค้าของไทย ที่ใช้เทคโนโลยีจากจีนหรือนำเข้าสินค้าจากจีนมาติดแบรนด์ของตนเอง โดยปัจุบันได้มีการลงทุนสร้างโรงงานเพื่อประกอบสินค้าจากจีนในเมืองไทย ในการประกอบรถจักรยานยนต์ โดยมีโรงงานประกอบอยู่ที่จังหวัด จันทบุรี โดยในส่วนของโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์มีกำลังการผลิตราว 3 แสนคันค่อปี นอกจากธุรกิจผลิตรถแล้วแพลตทินัมยังได้มีการนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ในกลุ่มโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เข้ามาจำหน่าย ควบคู่กับการขายรถจักรยานยนต์ด้วย