ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2550 > จักรยานยนต์เบนเข็มเจาะวัยรุ่นประสานพันธมิตรจัดอีเวนต์ฮิต
จักรยานยนต์เบนเข็มเจาะวัยรุ่นประสานพันธมิตรจัดอีเวนต์ฮิต
ที่มา - นสพ.ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 14 มิ.ย.50

ค่ายรถจักรยานยนต์แห่ผนึกพันธมิตรเพิ่มอิมแพ็ค ยามาฮ่าโหนมูฟวี่มาร์เก็ตติ้ง จัดโรดโชว์ชวนลูกค้าดูหนัง"รักนะ 24 ชั่วโมง"กระทบไหล่ดารานำ ด้านฮอนด้าจับมือหนังฮอลลีวู๊ด ชิงโชครถตกแต่งพิเศษ

จากการสำรวจของ"ฐานเศรษฐกิจ"พบว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้กำลังการซื้อรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศหดตัว ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำต้องเร่งจัดกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายขึ้น โดยมุ่งตรงไปที่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย และยังมีกำลังการซื้อสูง แทนกลุ่มระดับล่าง ซึ่งมียอดขายลดลงจากปัญหาภัยธรรมชาติและผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยแต่ละรายจะแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน เพื่อเพิ่มพลังการตลาดให้ได้ผลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นร่วมกับภาพยนตร์ งานแสดงคอนเสิร์ตบัตรเติมเงิน และกิจกรรมการตลาดแบบอื่นๆ

นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่ากำลังการซื้อที่ลดลง ช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ติดลบเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เร่งจัดกิจกรรมมากขึ้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและความคึกคักให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ในเมืองซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังกำลังการซื้อสูง โดยจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ เพื่อสร้างอิมแพ็คให้แรงขึ้นรวมทั้งยังขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ล่าสุด บริษัทยังได้จัดกิจกรรมร่วมกับภาพยนตร์ "รักนะ 24 ชั่วโมง" ของอาร์เอส ฟิล์ม โดยจัดขบวนคาราวานไปงาน "คนรักฟีโน่ 24 ชั่วโมง" โดยเชิญผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ร่วมชมภาพยนตร์แบบเหมาโรงตามจังหวัดต่างๆพร้อมร่วมกระทบไหล่ ดารานำ"ฟิล์ม รัฐภูมิ"อย่างใกล้ชิด

โดยจัดงานโรดโชว์ ครั้งแรก วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2550 ที่จังหวัดเชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2550 ที่นครราชสีมา วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2550 ที่เมืองพัทยา และวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2550 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

"การจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดอิมแพ็คเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ซึ่งยามาฮ่าจัดกิจกรรมเช่นนี้มา 2 ปีแล้ว และจัดกับภาพยนตร์ของอาร์เอส ฟิล์มมาหลายเรื่องแล้ว ก่อนหน้านี้ จัดกิจกรรมกับภาพยนตร์เรื่อง"ผีไม้จิ้มฟัน" ซึ่งเหมาะสมกับกับกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์ และชอบดูหนังฟังเพลง ขณะเดียวกัน ยามาฮ่า ก็มีการก่อตั้งยามาฮ่าคลับขึ้นมาเพื่อเป็นพบปะของคนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนๆกัน และยังเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับติดตัว ที่อินเทรนด์แฟชั่น และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่มีสไตล์และคอนเซปต์เดียวกัน ซึ่งทำให้เจ้าของรถเกิดความภาคภูมิใจในแบรนด์ สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้สร้างขึ้นในวันเดียว ต้องใช้เวลานาน 4-5 ปี ปัจจุบัน ยามาฮ่ามียอดขายในส่วนของปแอสเซสเซอรี่ปีละ 10 ล้านบาท"

นายโทชิยูกิ อินูมา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า จากแนวโน้มตลาดที่ลดลงตั้งแต่ต้นปีนั้น บรรดาค่ายผู้ผลิตต่างไม่นิ่งนอนใจ และได้เร่งแผนกระตุ้นตลาดกันอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของฮอนด้าเองก็พยายามที่จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาด โดยล่าสุดได้มีการจัดแคมเปญร่วมสนับสนุนภาพยนต์ฟอร์มยักษ์แห่งปี อาทิ ภาพยนต์เรื่อง Ghost Riders กับรถจักรยานยนต์รุ่นท๊อปสุดของเมืองไทย Honda Phantom Fire Edition ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนในไตรมาส 2 นี้ได้จับมือกับโซนี่พิคเจอร์สสนับสนุนภาพยนต์ที่ทุกคนรอคอยมากที่สุด นั่นคือ "สไปเดอร์แมน 3" กับ ฮอนด้า คลิก สไปเดอร์แมนเอดิชั่น พร้อมอัดแคมเปญยักษ์ "ฮอนด้าชักใยให้โชค" โดยร่วมกับเอไอเอส และ โรงภาพยนตร์เอสเอฟสร้างกระแสคลื่นมหาชนที่ร้านผู้จำหน่ายฮอนด้าทั่วประเทศ

"ในฐานะผู้นำตลาดที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง เราจะเป็นจะต้องจัดกิจกรรมเพื่อดึงคนเข้าโชว์รูม โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสัดส่วนราว 25%ของยอดขายของเรา"

นางสาวจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนการหาพันธมิตรใหม่ๆเพิ่มเติม เพื่อรุกตลาดและสร้างกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรบกลุ่มลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลัก

"กลยุทธ์การหาพันธมิตรในด้านการส่งเสริมการขายนั้น ฮอนด้าได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ก็ได้มีกิจกรรมหลายอย่างออกสู่สายตาลูกค้า อนาคตก็จะมีกิจกรรมใหม่ๆออกมา ซึ่งการจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆนั้นจะช่วยให้การสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเกิดพลังและมีอิทธิพลมากกว่าการดำเนินกิจกรรมเพียงลำพังเพียงแบรนด์เดียว"