ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > เอ.พี.ฮอนด้า เปิดโลกออนไลน์ สื่อตรงใจลูกค้า-แบรนด์-องค์กร
เอ.พี.ฮอนด้า เปิดโลกออนไลน์ สื่อตรงใจลูกค้า-แบรนด์-องค์กร
ที่มา - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 4 ม.ค.54

สื่อกระแสหลักแบบเดิม ยังเป็นทรงพลังในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่เป็นแบบการสื่อสารทางเดียว บริษัทอยากบอกอะไรก็นำเสนอไป เข้าถึงคนหมู่มากได้ดี แต่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะมากเมื่อเปรียบเทียบกับโซเชียล มีเดีย แน่นอนว่า สื่อใหม่ที่กำลังบูมสุดขีดก็มีความต่าง และความเหมาะสมอีกรูปแบบไปเลย

จุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซเชียล มีเดีย ว่า โซเชียล มีเดีย จะสื่อสารได้ตรงกลุ่มกว่า และที่ดีมากๆ คือ เกิดการโต้ตอบ หรือ Interactive ที่บริษัทสามารถรับรู้ความคิดเห็นจากกลุ่มเป้าหมายได้ เป็นการสื่อสารสองทาง ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ วัยรุ่นที่เน้นความเป็นชุมชนมากขึ้น บริษัทก็สามารถสอดแทรกข่าวสารเข้าไปหากลุ่มเป้าหมายได้ และขณะเดียวกัน ลูกค้าก็สามารถสื่อสารถึงบริษัทได้ เป็นผลประโยชน์ร่วม ที่เกิดกับทั้งลูกค้าและบริษัท

ผู้บริหาร เอ.พี. ฮอนด้า ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อนำแบรนด์เข้ามาในโลกของโซเชียล มีเดีย ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของการสื่อสารบนโลกออนไลน์ที่มาเร็วไปเร็ว ฉะนั้นแบรนด์เอง ก็ต้องมีความกระฉับกระเฉงเช่นกัน เพราะลูกค้าจะใช้ช่องทางนี้ในการติชม แนะนำ ปรึกษา หรือบ่นว่า ต่างๆ นานา นอกจากนั้น ยังต้องมีการจัดกิจกรรมให้ผู้ใช้ ได้มีโอกาสพบปะร่วมสนุกกัน เพื่อให้หน้าเพจโซเชียล มีเดีย ของแบรนด์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อมีกิจกรรม รู้จักกันในวงกว้าง ก็มีการแบ่งปันประสบการณ์ แบ่งปันภาพประทับใจถึงกัน เป็นปกติวิสัยของสังคมออนไลน์

"เอ.พี.ฮอนด้าใช้โซเชียล มีเดีย ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ทั้งเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ โดยเน้นสื่อสารกิจกรรมและข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์"

จุฑามาศ เล่าว่า เฟซบุ๊คนิยมใช้งานกันกว้างขวางกว่า ลูกเล่นมากกว่า จึงดีกว่าทวิตเตอร์ ซึ่งกลุ่มสมาชิกของฮอนด้าก็จะเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ เพราะลูกค้าจะติดตามข่าวสารกิจกรรม และแบ่งปันประสบการณ์การใช้รถ การท่องเที่ยวร่วมกัน ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 เป็นนักเรียน นักศึกษา

การสื่อสารของเอ.พี.ฮอนด้าผ่านโซเชียล มีเดีย บอกชัดเจนถึงตัวตนว่า เป็น Honda Motorcycle เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการที่ลูกค้าจะเลือกติดตามข่าวสาร และปรึกษาข้อมูลต่างๆ แต่วิธีพูดคุยก็จะเป็นแบบเพื่อนคุยกับเพื่อน ไม่ว่าใครก็เป็นเพื่อนกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ เพื่อนก็จะแนะนำเรื่องดีๆ ให้กัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเพื่อนๆ บ้าง และแบ่งปันข่าวสารประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบอยู่ตลอดเวลา

ความน่าสนใจของเฟซบุ๊ครถจักรยานยนต์ฮอนด้า คือ ความสามารถของผู้ทำหน้าที่มอนิเตอร์ ที่ต้องรู้เรื่องราวมากมาย นอกเหนือจากเรื่องสินค้าและบริการของ เอ.พี.ฮอนด้า แต่จะต้องมีทักษะในการสื่อสารในระดับดี เพราะแฟนฮอนด้ามีทุกเพศทุกวัยและทุกระดับการศึกษา มีความสนใจที่แตกต่างกัน รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ก็เป็นแบรนด์ที่มีแคมเปญการตลาดมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของประเทศ

จุฑามาศ เล่าว่า ความสนใจของคนแต่ละกลุ่มจะมีความต่างกันอยู่บ้าง เช่น เรื่องมอเตอร์ สปอร์ต คนที่เป็นแฟนของฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ และชื่นชอบกีฬาความเร็ว เข้ามาติดตามข่าวสารการแข่งขัน และความเคลื่อนไหวของฟีม ส่วนกลุ่มวัยรุ่นของสกู๊ปปี้ไอ จะชื่นชอบกิจกรรมทางดนตรี คอนเสิร์ต ศิลปินดาราพรีเซ็นเตอร์ เป็นต้น โซเชียล มีเดีย เป็นการสกรีนความชอบของคนแต่ละกลุ่มในตัวอยู่แล้ว บริษัทก็เลือกจัดกิจกรรมให้สอดคล้อง อาทิเช่น มอเตอร์สปอร์ต สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง กิจกรรมเพื่อสังคมหรือซีเอสอาร์ และสร้างการมีส่วนร่วมจากลูกค้าในการแชร์รูปภาพ เป็นต้น

ตัวอย่างแคมเปญการตลาดบนโซเชียล มีเดีย ของ เอ.พี. ฮอนด้า กรณีสกู๊ปปี้ ไอ (Scoopy I) ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า Scoopy D-Day มีการเปิดหน้าเฟซบุ๊ค เพจของกิจกรรมสำหรับสื่อสารกับกลุ่ม ซึ่งถือเป็นที่รวมของคนใช้สกู๊ปปี้ ไอ เพื่อแจ้งข่าวสารกิจกรรม การดูแลรักษารถ และอัพเดทข้อมูลต่างๆ ซึ่งถือว่าฟีดแบ็คค่อนข้างดี แต่เอ.พี.ฮอนด้าก็ยังไม่พอใจนัก และอยู่ระหว่างคิดแคมเปญโปรโมทต่อเนื่อง

ล่าสุดฮอนด้า เพิ่งประกาศแคมเปญใหม่ รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงวันหยุดยาว Zero Accident อุบัติเหตุเป็นศูนย์ เริ่มที่ตัวคุณ แคมเปญนี้นอกจากสื่อสารผ่านสื่อกระแสหลักแล้ว ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับส่งอีการ์ด ในเฟซบุ๊ค ให้ผู้ที่สนใจส่งถึงเพื่อนเพื่อเตือนสติ เตือนใจให้ใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวังด้วยการขี่ใส่หมวก ขี่ไม่ซิ่ง ขี่ไม่เมา ซึ่งในแคมเปญนี้ได้นำพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นกลุ่มผู้นำความคิดของคนไทยทั้งประเทศมาเป็นผู้รณรงค์ อาทิเช่น แอ๊ด คาราบาว ป๊อด โมเดิร์นด๊อก ไทยเทเนี่ยม บี้-สุกฤษณ์ วิเศษแก้ว มาริโอ้ เมาเร่อ เดอะริชแมนทอย และน้องหนูนาจากกวนมึนโฮ แต่ในอีการ์ดแฟนฮอนด้าในเฟซบุ๊คยังสามารถเปลี่ยนรูปตัวเองร่วมรณรงค์กับดารา หรือเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบได้ที่ facebook.com/hondamotorcyclethailand

ในแง่การส่งเสริมพนักงานให้ใช้โซเชียล มีเดีย แม้ เอ.พี.ฮอนด้า จะไม่มีนโยบายออกมาโดยตรง แต่ก็ไม่ปิดกั้น เพราะใน เอ.พี.ฮอนด้าเองก็มีกิจกรรมสำหรับพนักงานเป็นประจำทุกเดือน และส่งข่าวสารถึงพนักงานผ่านเฟซบุ๊คเช่นกัน มีการแชร์รูปภาพ พูดคุยอภิปรายทำให้สังคมในบริษัทในกลุ่มพนักงานเหนียวแน่นขึ้น เพราะโดยปกติการพูดคุยอาจไม่ทั่วถึงทุกแผนก แต่ในเฟซบุ๊คทุกคนรับรู้เรื่องราวได้หมด ถือเป็นช่องทางสื่อสารภายในองค์กรที่ดีมาก