ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > ไทเกอร์ปรับแผนลดความเสี่ยงโยกคาปาซิตี้ 60% รับจ้างผลิต
ไทเกอร์ปรับแผนลดความเสี่ยงโยกคาปาซิตี้ 60% รับจ้างผลิต
ที่มา - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 11-13 เม.ย.54

มอเตอร์ไซค์ "ไทเกอร์" ปลื้มหลังปรับภาพเปลี่ยนเป็นรับจ้างประกอบ ยอมรับแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นลำบาก ฟุ้งต่างประเทศส่งออร์เดอร์ให้ผลิตเพียบ ส่วนปีนี้คาดขายไทเกอร์-แซคส์รวมกัน 8-9 พันคัน

นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบค์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ และแซคส์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากที่บริษัทได้ปรับแผนดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมด จากเดิมทำหน้าที่ผลิตและจำหน่าย หลังจากนี้ไปจะเน้นเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตรถจักรยานยนต์ (โออีเอ็ม) ให้กับแบรนด์ต่างๆ เพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศ โดยจะใช้ชื่อ "แบรนด์" แตกต่างกันไปตามแต่ละตัวแทนจำหน่ายประเทศนั้น ๆ

โดยใช้โรงงานสมุทรปราการเป็นฐานการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด จากปัจจุบันบริษัทจะผลิตรถจักรยานยนต์ 20,000-30,000 คันต่อปีจากกำลังการผลิตทั้งหมด 70,000-80,000 คันต่อปี โดยจะรับจ้างประกอบรถในหลากหลายยี่ห้อ รวมทั้งรถแบรนด์ไทเกอร์และแซคส์คิดเป็น 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมด และอีก 60% จะเป็นการรับจ้างผลิตรถจักรยานยนต์ในกลุ่มรถบิ๊กไบก์ และแบรนด์อื่น ๆ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นอเมริกา และยุโรป

"ต้องยอมรับว่าหลังจากที่เราตัดสินใจหันมารับจ้างประกอบรถยนต์ มอเตอร์ไซค์เพื่อส่งออกให้กับแบรนด์ต่าง ๆ นั้น ยอดการผลิตมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์เองก็ได้ปรับลดลงมาค่อนข้างเยอะเหลือประมาณ 1.5 พันคันต่อเดือนเอง" นายปิติกล่าว

ด้านนายปริย มโนมัยพิบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาดกล่าวว่า การที่บริษัทปรับเปลี่ยนนโบายมาเป็นผู้รับจ้างประกอบรถจักรยานยนต์ให้แบรนด์ต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี และปัจจุบันมผู้จ้างให้บริษัทประกอบค่อนข้างมากนโยบายนี้ช่วยให้ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง

กระจายความเสี่ยงในเรื่องของการลงทุน
สำหรับบริษัทปัจจุบันเน้นทำตลาดรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ และแซคส์เป็นหลัก พร้อมทั้งเป้าปีนี้จะมียอดขายทั้ง 2 แบรนด์ประมาณ 8,000-9,000 คัน

พร้อมกันนี้นายปริยยอมรับว่า การแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไทเกอร์และแซคส์จะทำตลาดรถจักรยานยนต์แข่งกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล ดังนั้นบริษัทจึงจำเป็นจะต้องปรับภาพการดำเนินธุรกิจหันมาเป็นผู้รับจ้างผลิตทดแทน

ส่วนแผนการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และน่าจะเปิดตัวได้ในเร็ว ๆ นี้