ร่วมงานกับเรา
ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ > ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ประจำปี 2553 (ม.ค.-พ.ค.)
จักรยานยนต์ 5 เดือนยอดโต 26%
ที่มา – นสพ.ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11-14 ก.ค.53

ยอดขายรถสองล้อเครื่อง 5 เดือนโกย 7.5 แสนคัน เติบโตกว่า 26% กลุ่มเอทียังแรงแซงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มครอบครัวต่อเนื่อง ด้านยามาฮ่าเปิดตัวมีโอใหม่ลายรอสซี่ รุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพียง 3,000 คัน ส่วนฮอนด้าฟุ้งแคมเปญบอลโลกแรง ลูกค้าตอบรับชิงโชคกว่า 1 ล้านคน

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า ตัวเลขจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ทุกประเภทนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 พบว่ามีปริมาณยอดสะสมจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น 750,607 คัน เทียบเท่าอัตราการเติบโตของตลาดสูงถึง 26.54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 591,755 คัน โดยแบ่งยอดจดทะเบียนออกเป็นรถจักรยานยนต์แบบเอที369,368 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ตามมาด้วยรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 349,919 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47% ,รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตมีจำนวน 15,404 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2% ,แบบออฟโรด 8,667 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% แบบสปอร์ตและประเภทอื่นๆ 7,249 คัน มีสัดส่วนตลาดกว่า1%

เมื่อแบ่งยอดจดทะเบียนตามประเภทผู้ผลิตพบว่า ฮอนด้ามียอดจำนวน 518,856 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 69%,ยามาฮ่า 188,339 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 25 % , ซูซูกิ 26,004 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 3% ,คาวาซากิ 9,827 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 1% , เจอาร์ดี 145คัน,แพล็ตตินั่ม 300 คัน,ไทเกอร์ 815 คันและอื่นๆ 6,321คัน

ด้านตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทเดือนพฤษภาคม 2553 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น149,696 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบ เอที 78,161 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 52% โดยขึ้นนำรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 67,334 คัน หรือเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 45% รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตมีจำนวน 1,706 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% แบบออฟโรด 1,582 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% แบบสปอร์ตและประเภทอื่นๆ 893 คัน มีสัดส่วนตลาดกว่า1%

เมื่อแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทผู้ผลิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า ค่ายฮอนด้ามียอดจำนวน 100,266 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 67% ,ยามาฮ่า 40,826 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27%,ซูซูกิ 5,412 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 4% และอื่นๆ ได้แก่ คาวาซากิ 1,768 คัน,เจอาร์ดี 48 คัน, แพล็ตตินั่ม 68 ,ไทเกอร์ 139 คันและอื่นๆ 1,149 คัน

ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถเอทีหรือเกียร์อัตโนมัติที่เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า ,ยามาฮ่า หรือ ซูซูกิ ต่างงัดเอากลยุทธ์ทางการตลาดออกมาแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเน้นการตลาดไปที่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งผ่านกีฬาฟุตบอลโลก ดังจะเห็นจากการเป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาของยามาฮ่า หรือการเปิดตัวแคมเปญเกาะติดทีมชาติอังกฤษของค่ายฮอนด้า ส่วนซูซูกิก็มีการสนับสนุนรายการวิเคราะห์เจาะลึกศึกฟุตบอลโลก รวมไปถึงการที่ทุกค่ายรถสองล้อไปจับมือกับพันธมิตรต่างๆในการทายผลชิงรางวัล ส่งผลให้สัดส่วนของรถในกลุ่มเอทีเติบโตแซงหน้ากลุ่มรถครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

"ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์มีสัญญาณการเติบโตตลาดในภาพรวม สะท้อนตัวเลขเชิงลึกที่ชี้ให้เห็นถึงกระแสการเติบโตของกลุ่มรถจักรยานยนต์ประเภท เอที ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นมาเป็นลำดับ และครองสัดส่วนความนิยมสูงกว่ารถประเภทครอบครัว โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีอัตราครองตลาดสูงถึง 52% เหตุผลหนึ่งของการเติบโตนี้ เพราะเป็นผลจากการที่ทุกค่ายผู้ผลิตต่างแข่งขันและชิงความนิยมกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมการจำหน่าย ผลักดันแคมเปญต่างๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ามากขึ้น โดยคาดการณ์กันว่ารถจักรยานยนต์ประเภท เอที จะสร้างความคึกคักและความตื่นตัวให้กับตลาดได้ต่อไป

ล่าสุดค่ายยามาฮ่าก็ตอกย้ำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ผ่านการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในแบบลิมิเต็ด อิดิชั่น"มีโอ 125 โมโตจีพี รอสซี่ อิดิชั่น"ที่ทำการพัฒนาออกมาจำนวนจำกัด โดยนายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถในรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดแบบสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ที่มุ่งเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีความชื่นชอบหรือสะสมจักรยานยนต์ในรูปแบบพิเศษที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งยามาฮ่าได้พัฒนาออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 3,000 คันทั่วประเทศ

โดยมีโอ 125 โมโตจีพี รอสซี่ อิดิชั่น ได้แนวคิดในการผลิตมาจาก YZR-M1 ซึ่งเป็นรถต้นแบบคู่ใจนักแข่งระดับแชมป์โลกโมโตจีพี "วาเลนติโน่ รอสซี่" ซึ่งยามาฮ่า เรซซิ่ง ใช้เป็นรถแข่งขันตลอดฤดูกาล2009 โดย YZR-M1 ได้รับการออกแบบเครื่องยนต์ขนาด 800 ซีซี ให้มีความแรงและมอบให้ "เดอะ ด็อกเตอร์" วาเลนติโน รอสซี่ และ ฮอร์เก ลอเรนโซ่ ลงแข่งขันในฤดูกาลที่ผ่านมาและส่งผลให้วาเลนติโน รอสซี่ กลายเป็นยอดนักบิดแชมป์โลกโมโตจีพี 2009

ส่วนสัญลักษณ์เบอร์ 46 ที่ใช้เป็นอีกหนึ่งโลโกของ มีโอ 125 "โมโตจีพี รอสซี่ อิดิชั่น" นั้นเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของรอสซี่ ที่ใช้แข่งต่อเนื่อง แม้ในฤดูกาลแข่งล่าสุดก็ยังคงใช้หมายเลขเดิมในการลงแข่ง YZR-M1

นอกจากการพัฒนาตัวรถในรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นแล้ว ยังมีกลยุทธ์ส่งเสริมการขายให้กับผู้ที่ซื้อจักรยานยนต์ในรุ่นใหม่นี้ โดยสามารถซื้อชุดพรีเมียม โมโตจีพี รอสซี่ อิดิชั่น และสิทธิพิเศษบัตรมีโอ พรีเมียม การ์ด เมมเบอร์ จำกัดเฉพาะเจ้าของในแต่ละคัน และยังมีพวงกุญแจ ,หมวกกันน็อก มีโอ 125 โมโตจีพี รอสซี่ อิดิชั่น

ขณะที่ค่ายฮอนด้าแม้จะยังไม่มีรถรุ่นใหม่ออกมาในขณะนี้ แต่ก็ยังคงจะเดินหน้าสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งโดยเฉพาะแคมเปญ"เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบกับฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ"ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าฮอนด้า และแฟนบอลทั่วไปร่วมทายผลว่าทีมชาติอังกฤษสามารถเข้ามาสู่รอบไหนในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และแม้ว่าอังกฤษจะตกรอบไปแล้ว แต่ยังสามารถร่วมทายผลเข้ามาได้จนถึงวันที่ 11 ก.ค.นี้ โดยมีรางวัลพิเศษเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายสิงโตคำราม ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพียง100คันเท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีของรางวัลลิขสิทธิ์แท้ทีมชาติอังกฤษอีกมากมาย โดยแคมเปญดังกล่าวจะจับรางวัลในวันที่ 29 ก.ค.ซึ่งค่ายฮอนด้าพบว่าลูกค้าฮอนด้าและบุคคลทั่วไปให้การตอบรับเพื่อร่วมชิงรางวัลเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้มีประชาชนที่มาขอรับคูปองทายผลลุ้นโชคกับสกู๊ปปี้ ไอ รวมกว่า 1 ล้านใบ