ฮอนด้าเครื่องแรง ดันยอดขายกระฉูด 10 เดือนทะลุล้าน ทุบสถิติยอดขายทิ้งคู่แข่งขาดลอย พร้อมส่งความมันส์ อันลิมิต ปล่อยเทรนด์ฮิต “อ้าลายศอก...ออกลายซ่าส์”ฉลอง Scoopy i สุดยิ่งใหญ่ในงาน Big Fun Fest
สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นเดือนเริ่มต้นไตรมาสสุดท้ายของปี ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยปริมาณยอดจดทะเบียนโดยรวมทั้งสิ้น สูงเกินกว่า 1.39 แสนคัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 16% ทั้งนี้เป็นเพราะแรงหนุนใหม่ของค่ายผู้นำอย่างฮอนด้า ที่ส่งรถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีด พีจีเอ็ม-เอฟไอ ตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้กันอย่างจุใจถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ พร้อมฉลองยอดขายกระฉูดทะลุล้านคันแบบสบายๆ ด้วยยอดขายสะสมเกินกว่า 1.05 ล้านคันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนหน้า สูงถึงกว่า 25% แถมด้วยการตอบแทนผู้ใช้ฉลองครบรอบ 1 ปี ฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ เนรมิตสนามกีฬาจัด อีเว้นต์ยักษ์ใหญ่ Big Fun Fest by Honda มหกรรมคอนเสริต์ระเบิดความสนุกมันส์กระหึ่มสนามราชมังคลา ส่งความสุขให้ประชาชนทั่วประเทศไทยที่เข้าร่วมงานเกินความคาดหมายนับแสนคน
จากสภาวะการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขายรถจักรยานยนต์ในขณะนี้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหลาย ๆ จังหวัดในประเทศไทย กำลังประสบปัญหาและเผชิญกับสภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อนั้น จากตัวเลขยอดขายกลับแสดงให้เห็นว่ายอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์รวมในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลับไม่ได้รับผลกระทบต่อยอดขายรถจักรยานยนต์ในช่วงหน้าฝนเหมือนอย่างที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยจะเห็นได้ว่าเดือนตุลาคมกลับมียอดจดทะเบียนป้ายวงกลมสะสมรวมทุกยี่ห้ออยู่ที่ 139,150 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าสูงถึง 16% โดยคิดเป็นสัดส่วนรถจักรยานยนต์แบบหัวฉีด ที่กวาดสัดส่วนตลาดโกยยอดขายได้มากถึง 96,098 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 69% ในขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Scoopy i รถจักรยานยนต์ขวัญใจมหาชนที่ยังคงฮอตฮิตติดลมบนทิ้งขาดรถคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น ครองตำแหน่งรถจักรยานยนต์ประเภท เอ. ที. ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา รวมมียอดจดทะเบียนสะสม 10 เดือนมากถึงกว่า 199,061 คันแล้ว
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทย 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สะสมรวมทั้งสิ้น 1,543,775 คัน โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขายสะสมของฮอนด้าสูงถึง 1,050,898 คัน หรือคิดเป็น 68% ของตลาดรวมทั้งหมด เฉพาะเดือนตุลาคมที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนสะสมตลาดรวมอยู่ที่ 139,150 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นสวนทางกับปัจจัยลบทางด้านสภาวะภูมิอากาศในประเทศไทย อันเนื่องจากภาวะวิกฤติทางอุทกภัยที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในหลายพื้นที่ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการชะลอการซื้อของผู้บริโภคอย่างสูง
แต่เมื่อวิเคราะห์จากยอดการจดทะเบียนจะพบว่า รถจักรยานยนต์ในกลุ่มรถประเภท เอ. ที. เป็นรถประเภทที่มีอัตราการเติบโตเทียบกับปีก่อนหน้าสูงที่สุด โดยฮอนด้ามีอัตราส่วนครองตลาดของรถ เอ. ที. นี้ถึง 59% หรือเป็นจำนวน 42,211 คัน จากจำนวนยอดจดทะเบียนรถ เอ.ที. ทั้งสิ้น 71,619 คัน รวมทั้งการได้รับแรงกระตุ้นจากเทรนด์การใช้รถหัวฉีดที่ยังคงเป็นที่นิยมจากการแนะนำกันแบบปากต่อปากอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้ชุมชนคนใช้หัวฉีดมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น สะท้อนถึงความนิยมของกลุ่มผู้ใช้ได้ชัดเจนแล้วว่า ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ให้ทั้งความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สนุก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเพิ่มความมั่นใจต่อผู้ใช้ด้วยการมอบบริการหลังการขายอย่างครบวงจรและครอบคลุมทั่วประเทศ
ดังนั้นฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาด จึงมุ่งมั่นเร่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้อย่างครบถ้วนทุกเซ็กเม้นท์ เดินหน้ารุกตลาดด้วยกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ กระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรถใหม่ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้กันอย่างจุใจถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ คือ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ อันลิมิต ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ จี๊ดจ๊าด กวนสะใจ ด้วย คอนเซปต์ใหม่.....ออกลายซ่าส์ เน้นลวดลายกริฟฟิตี้สีสันสะดุดตา สไตล์แสบซ่าสุดมันส์ รวมทั้งฮอนด้าซีบีอาร์ 150 อาร์ เอฟไอ ยนตรกรรมสปอร์ตเร้าใจรูปลักษณ์ใหม่ด้วย Image รถบิ๊กไบค์ระดับโลกรอบคัน และล่าสุดกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าซีบีอาร์ 250 อาร์ รถสปอร์ตเต็มสมรรถนะระบบหัวฉีด พีจีเอ็ม – เอฟไอ รุ่นแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดยอดความล้ำสมัย อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจของฮอนด้า ด้วยการคิดค้นพัฒนาจากฐานการผลิตในประเทศไทย พร้อมส่งออกและจำหน่ายไปยังหลายประเทศทั่วโลก ทั้งนี้เพื่อหวังปลุกกระแสความเร้าใจของตลาดรถสปอร์ตในเมืองไทยให้กับมาโหมกระหน่ำอีกครั้ง
ในรายละเอียดยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เดือนตุลาคมที่ผ่านมาปรากฎว่า ด้านรายงานตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์รวมทุกประเภท มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 139,150 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ประเภท เอ.ที. ซึ่งเป็นรถประเภทที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดอยู่ที่ 71,619 คัน เทียบเท่าอัตราส่วนครองตลาด 51% รองลงมาเป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียน 65,193 คัน คิดเป็น 47%, รถจักรยานยนต์แบบออฟโรดมียอดจดทะเบียน 913 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% ของตลาดรวม นอกจากนั้นจะเป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตที่มีปริมาณการจดทะเบียนจำนวน 515 คัน, รถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตจำนวน 401 คัน และรถประเภทอื่น ๆ อีก 509 คัน คิดเป็นสัดส่วนตลาดรวมกันอยู่ที่ 1%
หากแบ่งแยกออกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิตประจำเดือนตุลาคม 2553 รถจักรยานยนต์ ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 95,997 คัน เทียบเท่ากับอัตราครองตลาด 69%, ยามาฮ่า 34,625 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 25%, ซูซูกิ 5,471 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 4%, คาวาซากิ 1,022 คัน อัตราครองตลาด 1%, นอกจากนั้นจะเป็นรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ 222 คัน, แพล็ตตินั่ม 36 คัน, เจอาร์ดี 99 คัน และรถจักรยานยนต์แบรนด์ผู้ผลิตอื่นๆ อีก 1,678 คัน