ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ประกาศยังไม่มีแผนปรับราคารถเพิ่มแม้ต้นทุนวัตถุดิบจะปรับตัวสูงขึ้น โตโยต้ามั่นใจตลาดรถยนต์ปีนี้กวาด 7 แสนคัน ขณะที่ฮอนด้ามั่นใตลาดเป็นไปตามเป้า 2.15 ล้านคันแม้ไตรมาสแรกยอดขายจะโตแค่ 1%
มร.เรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สถานการณ์น้ำมันและต้นทุนวัตถุดิบได้มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็ก ทำให้ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในประเทศไทย ทำให้ทางบริษัทจึงได้มีแผนการที่ปรับกลยุทธ์และการบริหารต้นทุนการผลิตใหม่ นอกจากนี้ยังได้มีแผนงานร่วมกับซัพพลายเออร์ เพื่อทำให้ต้นทุนราคาชิ้นส่วนไม่ปรับตัวหรือตรึงราคาไว้ และในช่วงนี้บริษัทจึงยังไม่มีแผนการที่ปรับราคาจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามโตโยต้ากล่าวว่า หากต้นทุนการผลิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางโตโยค้าอาจะมีการปรับทบทวนนโยบายดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยในมุมมองของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยนั้น ตนเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์ในเมืองไทยยังจะเติบโตต่อไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ กล่าวคือในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดขายราว 7 แสนคัน
ยอดนำเข้ารถยนต์ไตรมาสแรก ปี 48 (ม.ค.-มี.ค.)
เดือน |
จำนวน (คัน) |
ภาษี (บาท) |
มกราคม |
4,838 |
1,023,504,460 |
กุมภาพันธ์ |
2,437 |
1,131,956,116 |
มีนาคม |
1,919 |
992,318,536 |
รวม |
9,194 |
3,147,779,112 |
ที่มา : กรมศุลกากร |
มร.โมโตฮิเดะ ซูโดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และรองป.กก. บริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า
สถานการณ์ของตลาดรถจักรยานยนต์ในขณะนี้มีการแข่งขันกันสูงและไม่เอื้อต่อการปรับราคา ขณะเดียวกันทางฮอนด้าก็ยังไม่มีแผนการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้น แม้ว่าต้นทุนการผลิตจะมีการปรับราคาไปส่วนหนึ่งแล้วก็ตาม
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตลาดรวมรถจักรยายนต์ในไทยในปี 2548 นี้จะมีจำนวนทั้งสิ้น 2.15 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายราว 1.5 ล้านคัน และในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายทุกยี่ห้อรวมกันเติบโตเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่คลาดเคลื่อนจากเป้าหมายที่ทำนายไว้ตลอดทั้งปี ว่าจะมีการเติบโตถึง 5% ซึ่งปัจจัยหลักนั้นมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ทำให้ยอดขายในภาคใต้ลดลงและกระทบมายังตลาดรวม