"แพล็ททินัม" โหมรุกตลาดมอเตอร์ไซค์หลังผ่านการรับรองจาก BOI เผยจับมือกับกลุ่มสินเชื่อยักษ์ใหญ่ ธนาคารทหารไทย และอิออน ไฟเขียวเตรียมปล่อยสินเชื่อ มั่นใจเข้าตลาดภายใน 3 ปี
นายสมนึก วิทยารังสรรค์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิต-ประกอบและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ "แพล็ททินัม" (PLATINUM) จากประเทศจีน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทจะเปิดตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ในทุกรูปแบบ (เซ็กเมนต์) ตั้งแต่สกูตเตอร์ไปจนถึงรถเอทีวี โดยเน้นความเป็นรถจักรยานยนต์ที่ราคายุติธรรม ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 เม.ย.
สำหรับในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 2-3 แสนคัน และขอส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10% ซึ่งขณะนี้มียอดสั่งจองแล้วกว่า 100,000 คัน จากตลาดสวัสดิการต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดครูและข้าราชการ และเตรียมส่งไปยังประเทศกัมพูชา 35,000 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการส่งมอบ นอกจากนี้ แพล็ททินัมยังได้จับมือกับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร "ทหารไทย" มูลค่า 5,000 ล้านบาท และบริษัท "อิออน" เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 7.7%
ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าในการส่งออกไว้ที่ 300,000 คัน และในประเทศอีก 300,000 คัน และตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยภายในระยะเวลา 5 ปีจะสามารถคืนทุน และจะส่งผลให้มีอัตราการจ้างงานกว่า 1,000 คน โดยจีนให้การสนับสนุนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตทั้งหมด
ทั้งนี้ "แพล็ททินัม" มีโรงงาน 2 แห่ง คือ โรงงานที่บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีเนื้อที่ 25 ไร่ โดยในช่วงสิ้นปีจะย้ายไปยังโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.จันทบุรี มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่งได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถผลิตรถจักรยานยนต์ได้เต็มอัตราการผลิตที่ 500,000 คัน โดยมีแผนที่จะผลิตเพื่อส่งออกปีละ 250,000 คัน ไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และบังกลาเทศ ในอนาคตคาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิต รถจักรยานยนต์ แพล็ททินัมได้
"เรามั่นใจว่าจะสามารถผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มีคุณภาพ และราคาที่ยุติธรรมให้คนไทยได้ใช้ ซึ่งตนขอยืนยันว่ารถมอเตอร์ไซค์แพล็ททินัมทุกคันมีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากประเทศจีน รวมถึงราคาต้นทุนที่ไม่สูงมาก และค่าแรงมีราคาถูก จึงส่งผลทำให้รถของเรามีราคาที่สมเหตุสมผล คือ มีราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง อีกทั้งผมยังยึดหลักในการผลิตที่ยิ่งมากยิ่งถูก การมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในตลาด ผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภค"
สำหรับรถจักรยานยนต์แพล็ททินัมที่นำเข้ามาจำหน่ายนั้น มีครบทุกประเภท ทั้งแบบครอบครัว แบบวิบาก แบบรถช็อปเปอร์ แบบสกูตเตอร์ และแบบสปอร์ต รวมทั้งสิ้น 23 รุ่น โดยมีขนาดตั้งแต่ 125 ซีซี ไปจนถึง 250 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีรถเอทีวีที่ผลิตในจีน โดยเน้นจุดขายความเป็นสินค้าคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานของประเทศจีน รวมทั้งราคาที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่โดดเด่น รูปลักษณ์ที่ทันสมัย และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ ทั้งรีโมตสตาร์ต สัญญาณกันขโมย เป็นต้น โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่ 28,850 บาท ไปจนถึง 71,400 บาท
ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น นายวิทยาเปิดเผยว่า บริษัทจะแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (ดีลเลอร์) 75 แห่งทั่วประเทศ และในกรุงเทพฯอีก 50 เขตรับผิดชอบ สำหรับตลาดต่างจังหวัดนั้นจะเป็นในลักษณะเมกะดีลเลอร์ คือ ดีลเลอร์รายหนึ่งอาจจะดูแลหลายจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียง โดยจะเปิดให้บริการในลักษณะ shop จำหน่ายแพล็ททินัมเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้แล้วยังได้เตรียมเปิดศูนย์บริการหลังการขายและอะไหล่อย่างครบวงจรอีก 500 แห่ง โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นอกจากรถจักรยานยนต์แล้ว ในอนาคตบริษัทสหไทยฯ ยังมีแผนในการนำเข้ารถกระบะเข้ามาจำหน่ายเพื่อรองรับกลุ่มของผู้ประกอบการต่างๆ ที่ต้องการรถเพื่อการใช้งานอย่างแท้จริงภายในปี 2553 เนื่องจากเป็นรถที่มีราคาไม่แพง และมีสมรรถนะในการใช้งานเทียบเท่ากับรถกระบะที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
"เราจะทำการตลาดโดยใช้กลยุทธ์ในเรื่องของความหลากหลายของสินค้าที่จะตอบสนองความต้องการในทุกเซ็กเมนต์ และมีคุณภาพในระดับโลก ในส่วนของการผลิตเราได้รับการสนับสนุนวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน เพื่อถ่ายทอดความรู้และกระบวนการผลิตให้กับคนงานของเราเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งคาดว่าภายใน 5 ปีนี้เราจะสามารถผลิตรถได้เองทั้งหมด ส่วนปีนี้เราเตรียมงบประมาณที่จะใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ"