แบงก์ไม่หวั่นดอกเบี้ยขาขึ้น งัดโปรดักส์-จับมือร่วมทุน บ.ในเครือขยายธุรกิจ ให้บริการธุรกิจครบวงจร เพื่อดึงฐานลูกค้าหวังเสริมรายได้จากการให้บริการเพิ่ม คาดไตรมาส 2 แบงก์ขยายฐานธุรกิจแข่งขันกันดุ ทั้งสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เช่าซื้อ ล่าสุด ทหารไทยเตรียมรับมือบ.เชี่ยวชาญวาณิชธนกิจให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ถึงแม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินจะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่การขยายตัวของสินเชื่อที่ปล่อยกู้สำหรับลูกค้ารายย่อยในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2548 ยังขยายตัวได้ในระดับสูง โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีแผนที่จะร่วมทุนกับบ.ในเครือเพื่อขยายธุรกิจ
แหล่งข่าวจาก ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% ในบ.แมคควารี่ ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบ.ในกลุ่มของแมคควารี่ กรุ๊ป ของประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ให้บริการและเชี่ยวชาญด้านวาณิชธนกิจ และการเป็นที่ปรึกษาในการลงทุน การให้บริการทางการเงิน ซึ่งการที่ธนาคารเข้าถือหุ้นในบ.ดังกล่าว เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงการหาเงินทุนให้กับโครงการในประเทศและจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นการตอบสนองแนวทางของธนาคารทหารไทยในการก้าวเป็นยูนิเวอร์แซล แบงก์กิ้ง
"การที่แบงก์ทหารไทยถือหุ้นในสัดส่วน 51% ในบริษัท แมคควารี่ไทยแลนด์นั้น จะทำให้แบงก์ทำธุรกิจที่ปรึกษาในลักษณะของการหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ รวมทั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในประเทศ โดยที่แบงก์จะกินส่วนต่างและมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการให้บริการเพิ่มขึ้นอีกทาง นอกเหนือจากบริการด้านสินเชื่อและจากเครือบริษัทอื่นๆ"แหล่งข่าวกล่าว
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อจะยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกันจะยังมีการขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก เพราะเป็นตลาดที่ทำกำไรสูง แม้ว่าขณะนี้แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้นก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามการแข่งขันในการขยายฐานลูกค้า ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละแบงก์ในการขยายฐานธุรกิจ
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารไทยธนาคารได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 18 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 247.50 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัทสยามวอลล์ ลีสซิ่ง 75% และเปลี่ยนชื่อเป็น บ.บีทีเวิลด์ลีส ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เข้ามาสนับสนุนนโยบายที่ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะเป็นธนาคารที่ให้บริการแบบครบวงจร (Universal Bank) โดยคาดว่าภายใน 2-3 ปี ธนาคารจะมีรายได้จากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น เป็น 30% ขณะที่ปีนี้คาดจะมีรายได้จากบริษัทในเครือ ประมาณ 7-10% ของกำไรสุทธิจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 6-7% ซึ่งหลังการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม จะเริ่มดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ทันที
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งบริษัทลีสซิ่ง หลังจากที่คณะกรรมการธนาคารอนุมัติให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจเช่าซื้อได้ โดยภายหลังจากก่อตั้งบริษัทลิสซิ่ง ธนาคารก็จะดำเนินธุรกิจเช่าซื้อภายในธนาคารเอง จากที่ธนาคารทำธุรกิจเช่าซื้อผ่านบมจ.สยามลิสซิ่ง ทั้งนี้ธนาคารคาดหวังว่าภายในปีนี้ธนาคารจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 10% และในสัดส่วนดังกล่าวเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 40%
ก่อนหน้านี้ นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิสซิ่ง กสิกรไทย กล่าวว่า ภายใต้กรอบการดำเนินธุรกิจของ "กสิกรไทย กรุ๊ป" นั้น คาดว่าแนวโน้มการสร้างรายได้จากบริษัทในเครือในอีก 4-5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะรายได้จากค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% เศษ ขณะที่ลิสซิ่งกสิกรไทยวางนโยบายภายหลังการก่อตั้ง 3 ปีไปแล้ว จะต้องมีปริมาณธุรกิจสูงกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจลิสซิ่งที่อยู่ในระดับ 3% และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงิน ในส่วนของเอ็นพีแอลที่เกิดจากสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลนั้น มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2547
+ ไตรมาสแรก เอ็นพีแอลของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล อยู่ที่ 109,249 ล้านบาท หรือ 12.85% ของสินเชื่อรวม
+ ไตรมาสที่ 2 เอ็นพีแอลอยู่ที่ 104,742 ล้านบาท คิดเป็น 11.71% ของสินเชื่อรวม
+ ไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 100,834 ล้านบาท คิดเป็น 10.90% ต่อสินเชื่อรวม และ
+ ไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 94,923 ล้านบาท อยู่ที่ 9.70% ของสินเชื่อรวม