กรมการขนส่งทางบก/ฮอนด้า – ฮอนด้า กินรวบตลาดรถจักรยานยนต์ปี 48 ตั้งเป้า 1.5 ล้านคันจากตลาดรวม 2.1 ล้านคัน เปิดรถใหม่เดือนละรุ่น แตกไลน์ เวฟ ปูพรมกลุ่มครอบครัวประหยัดมั่นใจครองส่วนแบ่งสูงสุด 85% 5 เดือนกวาด 7 รุ่นรถขายดียอดนิยม
จากตัวเลขยอดขายรถจักรยานยนต์ 5 เดือนปี 2548 ที่แจ้งจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมียอดขายถึง 854,672 คัน ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของรถประเภทนี้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันจะแพงขึ้นก็ไม่กระทบกับยอดขาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อมียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่ผ่านมา โดย ฮอนด้า ขายได้ถึง 596,013 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 70% ตามด้วย ยามาฮ่า 120,034 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14% ซูซูกิ อันดับ 3 ขายได้ 92,724 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11% ไทเกอร์ 29,604 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3% คาวาซากิ 9,455 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1% เจอาร์ดี 3,669 คันและรถยี่ห้ออื่นๆรวมกัน 3,173 คัน
และเฉพาะในเดือนพฤษภาคมยอดขายรวมสูงถึง 196,036 คัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งหากแยกตามเซ็กเม้นท์ของรถแต่ละประเภท กลุ่มรถประเภท ครอบครัว มียอดขายสูงสุด ขายได้ 164,183 คัน รถครอบครัวกึ่งสปอร์ต 11,297 คัน รถสปอร์ต 1,344 คัน สกู๊ตเตอร์ 18,399 คัน และรถออฟโรด หรือ ATV 465 คัน
10 อันดับรถจักรยานยนต์ยอดนิยมในเดือนพ.ค.48
(เปรียบเทียบกับในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548)
อันดับ |
ยี่ห้อ/รุ่น |
ประเภท |
ยอดขาย (คัน) |
|
ช่วง 5 เดือน |
พฤษภาคม |
|||
1 |
ฮอนด้าเวฟ 100 | ครอบครัว |
323,432 |
82,204 |
2 |
ฮอนด้า เวฟ 125 อาร์ | ครอบครัว |
129,849 |
23,686 |
3 |
ยามาฮ่า มีโอ | สกู๊ตเตอร์ |
57,114 |
13,348 |
4 |
ซูซูกิ สแมซ จูเนียร์ | ครอบครัว |
53,475 |
12,590 |
5 |
ฮอนด้า เวฟ 125 เอส | ครอบครัว |
25,731 |
9,264 |
6 |
ฮอนด้า เวฟ แซด |
ครอบครัว |
33,818 |
7,781 |
7 |
ฮอนด้า ดรีม 125 | ครอบครัว |
25,119 |
7,075 |
8 |
ฮอนด้า โนวา โซนิค | ครอบครัวกึ่งสปอร์ต |
33,550 |
7,049 |
9 |
ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ | ครอบครัว |
8,868 |
6,367 |
10 |
ยามาฮ่า นูโว | สกู๊ตเตอร์ |
21,511 |
4,647 |
โดยความนิยมของรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นเป็นผลจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดค่ายฮอนด้าได้เปิดตัว เวฟ 125 อาร์โฉมใหม่ทั้งแบบสตาร์ทมือและสตาร์ทเท้า ราคาเริ่มต้น 37,000 บาท
ทั้งนี้นาย เชี่ยวชาญ รุ่งทวีสุข ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้าให้เหตุผลถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครั้งนี้ว่า ในภาวะที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น ทำให้พฤติกรรมผู้ใช้รถเปลี่ยนไปเพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่าย บางส่วน คนที่ใช้รถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน ต้องหันมาใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลเพราะราคาน้ำมันถูกกว่า และเมื่อราคาน้ำมันดีเซลลอยตัว ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะหันมาใช้รถจักรยานยนต์กันมากขึ้น ซึ่งทำให้ฮอนด้ามีโอกาสทำยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันแพงไม่มีผลกระทบต่อยอดขายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เพราะเป็นรถจักรยานยนต์ที่เน้นการประหยัดน้ำมัน
ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาบริษัทได้เปิดตังรถรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเฉลี่ย 1 รุ่นต่อเดือน ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ก็ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์โฉมใหม่ เวฟ 100 และเวฟ 125 อาร์โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 8 รุ่น ซึ่งขณะนี้ได้เปิดไปแล้ว 6 รุ่น คือ เวฟ 125 ไอ หน้าปัดดิจิตัล, เวฟ 125 เอส, เวฟ Z, โซนิค, เวฟ 100 ใหม่และล่าสุด เวฟ 125 อาร์
สำหรับในปีนี้ฮอนด้าจะเน้นเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นเวฟ โดยการแตกไลน์หลายเวอร์ชั่น เพื่อครอบคลุมความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามกำลังซื้อของผู้ใช้รถและลักษณะการใช้งาน โดยรุ่นที่เปิดตัวล่าสุด คือ เวฟ 125 อาร์ ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อสูงกว่ารุ่นเวฟ 100 ที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นเช่นกันแต่มีกำลังซื้อน้อยกว่า ซึ่งเวฟ 125 อาร์ตั้งราคาขายเริ่มต้น 39,000-41,500 บาท และคาดว่าจะขายได้ 10,000-12,000 คันต่อเดือนหรือ 300,000 คันในปีนี้
ในส่วนตลาดรถจักรยานยนต์ราคาย่อมเยาที่หลายยี่ห้อเปิดตัวออกมาจำหน่ายนั้นบริษัทไม่ได้กังวลกับปัญหานี้ เพราะมีรถรุ่นคุณภาพดีราคาย่อมเยาอยู่แล้ว และมีการรับประกันคุณภาพทั้งคัน 3 ปีหรือ 30,000 กม.และในช่วงฤดูฝนนี้ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าตั้งแต่การ เปลี่ยนผ้าเบรค เปลี่ยนยางนอก เปลี่ยนยางใน ถ่ายน้ำมันเครื่องในราคา 20 บาท และเปลี่ยนหัวเทียนในราคา 20 บาท
ปัจจุบันฮอนด้ามีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 70% และตั้งเป้าหมายในปีนี้จะทำยอดจำหน่ายให้ได้ถึง 1,500,000 คัน จากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2,100,000 คัน โดยยอดจำหน่ายของฮอนด้าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษาคมขายได้ 596,013 คัน คิดเป็นรถประเภทครอบครัวประมาณ 85% รถครอบครัวกึ่งสปอร์ต 10% และรถสปอร์ต 5%