ไทเกอร์รุกตลาด 2 ล้อจับมือบางจากจัด "ประหยัดพลังงานช่วยชาติ เติมแก๊สโซฮอล์ 91"แจกคูปองฟรี 1 แสนบาท "ปิติ" ชี้แข่งขันรุนแรงปรับลดเป้าจาก 8 หมื่นคันเหลือ 7.5 หมื่นคัน
นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไทก้า มอเตอร์ เซลส ผู้ผลิต และ จำหน่าย รถจักรยานยนต์ ไทเกอร์ เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่มีการชะลอตัว อันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องราคาน้ำมันที่สูงลิบลิ่วในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ร่วมมือกับบริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ"ประหยัดพลังงานช่วยชาติ เติมแก๊สโซฮอล์ 91" ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรของไทย เนื่องจากแก๊สโซฮอล์มีส่วนผสมมาจากพืชผลทางการเกษตร
โดยโครงการดังกล่าวบริษัทจะจัดทำคูปองส่วนลดในการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 2 บาท จำนวน 100,000 บาท ให้แก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไทเกอร์ทุกคัน ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งรถจักรยานยนต์ของไทเกอร์ทุกรุ่นสามารถเติมแก๊สโซฮอล์ได้ทั้ง 91 และ 95
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ทุกรุ่นสามารถรับคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมนี้ โดยนำหลักฐานคือสำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ไปติดต่อที่บริษัท ไทก้า มอเตอร์เซลส จำกัด หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านโดยคูปองดังกล่าวมีจำนวนจำกัดเพียง 2,000 คันเท่านั้น
"โครงการนี้เป็นการนำร่องก่อนโดยเริ่มในเดือนสิงหาคมและสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ใช้รถในปัจจุบันที่ต้องแบกรับภาระค่านำมันที่สูง อีกทั้งยังเป็นการสร้างกระแสใหม่ให้ผู้ใช้รถได้หันมาพิจารณาแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 "
นายปิติ กล่าวว่า ในปีนี้การแข่งขันของตลาดรถจักรยานยนต์ดุเดือดกว่าปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้องประสบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดรวมอาจจะลดลงเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ต้องรอดูตัวชี้นำทางเศรษฐกิจประกอบกับรอดูประชาชนว่ามีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่รายได้ยังคงที่ เหตุผลนี้จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการชะลอการซื้อ และทำให้ตัวเลขยอดขายรถจักรยานยนต์ลดลง
ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้ 37,000 คัน สำหรับเป้ายอดขาย จากเดิมเมื่อต้นปีได้มีการวางไว้จำนวน 80,000 คัน ก็ปรับลดลงเหลือ 75,000 คัน ซึ่งถือเป็นการปรับลดตามสภาวะปกติ โดยแบ่งยอดขาย 95% เป็นตลาดต่างจังหวัด และ 5% เป็นลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องการปรับขึ้นราคาของรถนั้น ในขณะนี้ยังไม่ได้มีแผนที่จะปรับขึ้น แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทจะมีการปรับในเรื่องของสต๊อก พร้อมทั้งปรับเรื่องประสิทธิภาพของงานให้มีคุณภาพสูงขึ้น และเน้นเรื่องของการบริการมากยิ่งขึ้นไป "เรายังมั่นใจในเรื่องของยอดขายที่ได้ตั้งเป้าไว้ แม้ว่าครึ่งปีจะทำยอดขายได้ 37,000 คัน แต่ในช่วงสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด โดยคาดว่าจะเป็นรถครอบครัว ซึ่งจะสามารถทำให้ยอดขายของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้"
นอกจากตลาดภายในประเทศแล้ว ยังได้เตรียมแผนเพื่อเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ จากปัจจุบันบริษัททำการส่งออก 20% และผลิตเพื่อขายภายในประเทศ 80% ซึ่งในส่วนของตลาดต่างประเทศในขณะนี้ได้มีการวางแผนที่จะรุกตลาดในรูปแบบใหม่ โดยจะเป็นการเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางด้านโนว์ฮาว เป็นการส่งบุคลากรเข้าไปพัฒนาและช่วยเหลือทางด้านเทคนิค รวมไปถึงอุปกรณ์ความรู้ต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นนี้จะนำร่องใน 10 ประเทศในเขตอาเซียน โดยมีประเทศต่างๆ ที่ได้พูดคุยแล้วไม่ว่าจะเป็นลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า