นายโทโมทากะ อิชิกาวา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของตลาดรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน ที่มีอัตราการเติบโตน้อยมาก แต่ ยามาฮ่า สามารถทำยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อย่างชัดเจนในปีนี้ โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า 20% ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา
เนื่องจากในปีที่ผ่านมาร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของร้านเป็น ยามาฮ่าสแควร์ ที่มีความทันสมัยครบวงจร ส่งผลให้เกิดความสำเร็จตามมามากมาย เช่น ลูกค้าวัยรุ่นเริ่มเข้าร้านมากขึ้น ยอดขายของอุปกรณ์ตกแต่งและเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น สำหรับในปีหน้าเชื่อว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้ออื่นๆ จะมีรถออโตเมติก อีกหลายรุ่นออกสู่ตลาด ดังนั้น ยามาฮ่า จะให้ความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น โดนใจวัยรุ่น ซึ่งจะเน้นแผนการตลาดและการพัฒนาโชว์รูมต้นแบบยามาฮ่าสแควร์ควบคู่กันไป
สำหรับสถานการณ์จำหน่ายรถจักรยานยนต์นั้น คาดว่าตลาดรถออโตเมติกจะเติบโตขึ้นมากกว่าครึ่งของตลาดรวมในปลายปี 2550 เนื่องจากภาพลักษณ์ของรถยามาฮ่าออโตเมติกได้รับความยอมรับทั้งในด้านรูปแบบและสมรรถนะของตัวรถ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ลูกค้าชื่นชอบ บริษัทคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งตลาดรถออโตเมติกของ ยามาฮ่า อย่างน้อยจะอยู่ที่ประมาณ 40% และส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของยามาฮ่าอยู่ที่ 30%
"บริษัทต้องการจะยกระดับภาพลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์ให้สูงขึ้น โดยพยายามที่จะเปลี่ยนให้มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่เป็นสิ่งที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับชีวิต ตอนนี้ลูกค้าของเรามีความสนุกสนานในการใช้เวลาว่างตกแต่งรถของพวกเขา จากนี้เป็นต้นไปเราจะทำให้ลูกค้าของเราสนุกสนานและประทับใจกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยบริษัทมั่นใจว่าสินค้า ยามาฮ่า จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าและได้รับความสนใจรวมทั้งการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน"
ส่วนแผนธุรกิจระยะกลางที่ ยามาฮ่า วางไว้ โดยภูมิภาคอาเซียนถูกจัดให้เป็นตลาดที่สำคัญที่สุด เน้นความสำคัญภายใต้นิยามที่ว่า "Only One Brand" ซึ่งมีภารกิจที่ต้องทำคือ 1. เพิ่มความหลากหลายของรถรุ่นใหม่ๆ 2. กลยุทธ์การสร้างตราสินค้า 3. สร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายการขาย 4. สร้างกิจกรรมการตลาด เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของยามาฮ่าในอาเซียนที่เคยลดลงอยู่ที่ 10% จากผลของวิกฤตความผันผวนในช่วงปี 2540 นั้น ฟื้นตัวขึ้นมาประมาณ 20% ในปี 2547 และในปีเดียวกันนี้บริษัทสามารถทำรายได้ และผลกำไรสูงสุดจากสถิติที่เคยบันทึกไว้มาก่อนหน้านี้
ด้านนายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในปีนี้ ที่บริษัทตั้งไว้ที่ 400,000 คันนั้น คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีการวางแผนรุกตลาดไว้หลายรูปแบบ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมความต้องการของลูกค้า ทั้งในรถแบบออโตเมติกและแบบมีเกียร์
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ยามาฮ่า สปาร์ค 135 ออกสู่ตลาด ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีได้ดียิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่เดือนละ 6,000 คัน มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และจะสามารถช่วยในการเพิ่มยอดจำหน่ายของยามาฮ่าให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 400,000 คันในปีนี้
สำหรับงบฯ การตลาดของการเปิดตัวรถรุ่นนี้ บริษัทตั้งไว้ประมาณ 70 ล้านบาท โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด ด้วยการนำกลุ่มนักร้องและดาราหญิงที่วัยรุ่นชื่นชอบและมีชื่อเสียงในขณะนี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คือ วงบอดี้สแลม และปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก รวมถึงการโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และการจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดทั่วประเทศ
"บริษัทให้ความสำคัญและภูมิใจเป็นอย่างมากในการเปิดตัวยามาฮ่า สปาร์ค 135 ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ทีมวิศวกรของ ยามาฮ่า ได้ร่วมกันพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่ที่เร้าใจได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น มีความสมบรูณ์แบบมากสำหรับรถครอบครัวที่มีอยู่ในปัจจุบัน"