เจอาร์ดี ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติมาเลเซีย สยายปีกเข้าธูรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์ เตรียมขายรถกระบะขนาดเล็ก ยี่ห้อ เจอาร์ดี ปีหน้า ผ่านเครือข่ายร้านค้ารถจักรยานยนต์ เน้นกลุ่มองค์กรตั้งเป้า ปีแรก 30 คัน ขณะที่ธุรกิจรถจักรยานยนต์เพิ่มบริษัทใหม่ "สกู๊ตเตอร์ อารีนา" คุมจัดจำหน่าย บริการ และไฟแนนซ์หวังดันยอดขายตามเป้าหน้า 3 หมื่นคัน เปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น
นายประภาส ศรีไพบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจอาร์ดี ไบรท์ มอเตอร์ อินดัสตรีส์ จำกัด ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ เจอาร์ดี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากที่บริษัทได้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์เจอาร์ดีมาในตลาดไทยเป็นเวลา 3 ปี บริษัทได้เตรียมลงทุนเพิ่มเติม เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในตลาดไทย ภายใต้ชื่อยี่ห้อ เจอาร์ดี โดยจะเน้นการจำหน่ายรถประเภท กระบะขนาดเล็ก หรือ มินิทรัค โดยรถยนต์ดังกล่าวนั้นจะทำการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมฉลุง จังหวัดสงขลา
ทั้งนี้การทำตลาดรถมินิทรัคนั้น อยู่ระหว่างการกำหนดกลยุทธ์ และแผนงานต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ราวต้นปี 2549 และจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรเอกชนและรัฐบาลที่นำไปใช้ในธุรกิจ
ก่อนหน้านี้เจอาร์ดีได้ผลิตรถกระบะส่งออกไปขายที่อินโดนีเซียภายใต้แบรนด์ เจอาร์ดี มาเป็นเวลากว่าปีเศษ ซึ่งแม้ว่าจะมีจำนวนไม่มาก แต่ทว่าก็ไปได้ดี และสำหรับตลาดไทยนั้นคาดว่าจะปี 2549 จะมียอดขายราว 30 คันเท่านั้น
นายประภาส กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้นบริษัทได้มีการตั้ง บริษัท สกู๊ตเตอร์ อารีนา จำกัด ขึ้นมาเพื่อศูนย์บริการลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ครบวงจร ให้กับลูกค้าของ เจอาร์ดี โดยในปีนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 9 แห่งและจะขยายเพิ่มเป็น 20 แห่ง ในปี 2549 โดย นอกเหนือจากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่แล้ว 120 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้สินค้าของ เจอาร์ดี ว่าจะได้รับการบริการที่ดีทั้งก่อน และ หลังการขาย จำนวน 20 แห่ง โดยสกู๊ตเตอร์อารีน่านั้นจะเข้ามาเสริมช่องว่างนอกเหนือจากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่แล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ
"สกู๊เตอร์อารีนานั้นถือว่าเป็นบริษัทในเครือของเจอาร์ดีฯ ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลด้านการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการหลังการขาย รวมถึงดูแลด้านสินเชื่อให้กับดีลเลอร์และลูกค้าด้วย เพราะการมีสินเชื่อให้กับลูกค้าของเจอาร์ดีนั้นคาดว่าจะมีส่วนกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยอารีนา นอกเหนือจะเป็นโชว์รูมต้นแบบ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้กับดัลเลอร์ทั่วประเทศแล้ว ก็ยังมีจะขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่ดีลเลอร์ไม่สามารถคลอบคลุมไปถึงด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ได้เริ่มขยายสาขาไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ อาทิ เชียงใหม่ และบางจังหวัดในภาคใต้แล้ว"
ปัจจุบันเจอาร์ดีมียอดขาย 1,500 คันต่อเดือน โดยในภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ทุกประเภทนั้นมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ และ ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2549 ไว้ 30,000 คันหรือ 1.5 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรวมที่ประมาณ 2 ล้านคันต่อปี และจะขยายงบประมาณทางการตลาด สำหรับโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ เจอาร์ดี ผ่านทางสื่อประเภทต่างๆ และ ส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ จาก 40 ล้านบาท ในปีนี้ เพิ่มเป็น 50 ล้านบาท ในปีหน้า
สำหรับในปีหน้า เพื่อตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดรถสกูตเตอร์ เจอาร์ดี เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ อีกอย่างน้อย จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย รถสกูตเตอร์ ขนาด 150 ซีซี ซึ่งถือเป็นสกูตเตอร์ ที่มีซีซีสูงที่สุดในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำมัน, รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัว ขนาด 130 ซีซี และรถจักรยานยนต์ ประเภท ช้อปเปอร์ ขนาด 200 ซีซี