ผู้ประกอบการมอเตอร์ไซค์ยอมรับว่า ตลาดมอเตอร์ไซค์เริ่มอิ่มตัวแล้ว ทำให้ต้องหันไปเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นมอเตอร์ไซค์ประเภทออโตเมติก ส่วนปัญหาการเมืองก็จะไม่กระทบกับยอดขาย
นายอรรณพ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 60 อันดับ 1 ในไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยใกล้อิ่มตัวแล้ว โดยมีสัดส่วนประชากร 3 คนต่อรถจักรยานยนต์ 1 คัน เนื่องจากขณะนี้มีรถจักรยานยนต์อยู่ในตลาดแล้วกว่า 20 ล้านคัน ดังนั้น ปีนี้ผู้ผลิตจึงหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะรถออโตเมติก ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมสูงกว่ารถประเภทครอบครัว
ด้านนายเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์อันดับที่ 3 ด้วยสัดส่วนร้อยละ 13 ของตลาดรวม กล่าวว่า ปัญหาการเมืองยังไม่กระทบยอดขายสินค้าประเภทนี้ เพราะถือเป็นสินค้าจำเป็น ทำให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นยังมั่นใจในการลงทุน โดยเชื่อว่าสถานการณ์จะสงบลงโดยเร็วหลังจากที่ไม่เกิดเหตุรุนแรงในการชุมนุมในวันแรก
ส่วนยอดขายรถจักรยานยนต์ในปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ 2.1 ล้านคัน โดยปัจจัยลบของตลาดคือภาวะเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ยังมีปัจจัยบวกด้านราคาน้ำมันที่ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถจักรยานยนต์มากขึ้น ประกอบกับธุรกิจไฟแนนซ์มีเงื่อนไขดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น
สำหรับปีนี้ ซูซูกิ จะใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ประเภทออโตเมติก ซึ่งเป็นตลาดหลักที่ผู้ผลิตทุกรายจะแข่งขันกันในปีนี้
ทั้งนี้ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ได้เข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม - 2 เมษายนนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวหลังเป็นประธานเปิดงานว่า ไทยได้ส่งอุตสาหกรรมผลิตรถจักรยานยนต์ต่อเนื่องมากว่า 30 ปีแล้ว จึงถือว่าไทยมีศักยภาพการผลิตในระดับโลก รวมทั้งสามารถออกแบบได้เองในประเทศ