มอเตอร์ไซค์ไทเกอร์ มาเหนือเมฆ เปิดตัวรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด ราคาไม่ถึง 6 หมื่นบาท เลิกผลิตเครื่องยนต์เก่า 110-125 ซีซี หันรุกตลาดสกูตเตอร์เต็มตัว
นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทก้า มอเตอร์เซลส์ ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ เปิดเผยถึงการทำตลาดในประเทศไทยนั้นว่า ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการปรับไลน์สินค้าที่จำหน่ายในประเทศ ด้วยการเลิกผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ 110-125 ซีซี แล้วเปลี่ยนรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทดแทน โดยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่มสกูตเตอร์ 2 รุ่น 3 เวอร์ชั่น ประกอบด้วยรุ่นไอซ์ เวอร์ชั่นเครื่องยนต์ธรรมดา วางราคาจำหน่าย 4.3 หมื่นบาท และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด วางราคาจำหน่าย 5.5 หมื่นบาท โดยเป็นการนำระบบไฮบริดมา ติดตั้งในรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถติดตั้งหรือถอดอุปกรณ์ไฮบริดจากรถได้ตลอดเวลาตามการใช้งาน อีกรุ่นหนึ่งได้แก่ รุ่นซี-แมกซ์ สกูตเตอร์ขนาด 150 ซีซี ตั้งราคาจำหน่าย 7.7 หมื่นบาท ซึ่งเป็นสกูตเตอร์สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่เน้นการด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งาน โดยรถรุ่นนี้ไม่มีคู่แข่งในประเทศไทย
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นรถที่ออกแบบมาโดยใช้สเปกจากทวีปยุโรป ซึ่งมีผู้ประกอบการจากยุโรปผลิตออกจำหน่ายในราคากว่า 1.4 แสนบาท
สำหรับแผนการตลาดในต่างประเทศนั้น ในปีนี้ บริษัทเตรียมปรับแผนงานเพื่อลุยที่จะเปิดตลาดในประเทศต่างๆ เพิ่มอีก 4 ประเทศ ประกอบไปด้วยมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และตุรกี ทั้งนี้ รูปแบบการทำตลาดจะใช้รูปแบบเดียวกับที่เคยใช้ในตลาดเวียดนาม ด้วยการเน้นการส่งชิ้นส่วนสำเร็จรูปเพื่อนำไปประกอบและจำหน่ายในแต่ละประเทศ
สินค้าที่นำเข้าไปจำหน่ายในแต่ละประเทศจะแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม แต่จะเน้นการนำสินค้าที่เหนือกว่าคู่แข่งที่ทำตลาดอยู่ โดยในมาเลเซียและอินโดนีเซีย จะนำรถเครื่องยนต์ 115 ซีซี ที่ให้สมรรถนะเหนือ กว่าคู่แข่งจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนฟิลิปปินส์ จะ เป็นสินค้ารุ่นพิเศษที่มีผู้ผลิตทำตลาดอยู่เพียง รายเดียว และในประเทศตุรกี จะทำตลาดด้วย รถจักรยานยนต์วิบาก
นายปิติ กล่าวว่า การเปิดตลาดรถจักรยานยนต์ใน 4 ประเทศนี้ จะทำให้การใช้กำลังการผลิตภายในโรงงานของไทเกอร์เพิ่มขึ้นจากที่ใช้สำหรับตลาดในประเทศราว 60% หรือ 6 หมื่นคัน จากกำลังการผลิต 1 แสนคันต่อปี ซึ่งเป้าหมายการจำหน่ายใน 4 ประเทศ รวมกันอยู่ที่ 3.5–4 หมื่นคันต่อปี
“ตอนนี้เรามองยอดขายรวมต่อปีอิงกับกำลังการผลิตในโรงงาน ที่ตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ 9 หมื่นถึง 1 แสนคันต่อปี”
นายปิติ กล่าวถึงการทำตลาดในประเทศเวียดนามในขณะนี้ว่า ไทเกอร์ได้ชะลอการทำตลาดในเวียดนามลงไปในช่วงนี้ เนื่องจากมองว่า เป็นตลาดที่อาจจะไม่พร้อมกับสินค้ารุ่นเดิมที่ทางบริษัทมีอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้ถอนตัวจากเวียดนามแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตหลังจากที่ไทเกอร์มีสินค้ารุ่นใหม่ๆ เช่น รถที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้า ก็น่าจะกลับไปทำตลาดในเวียดนามอีก