ซูซูกิ เตรียมลงเม็ดเงิน 700 ล้านบาทหวังเพิ่มกำลังการผลิตดันยอดขายใกล้เคียงคู่แข่ง หลังปีที่แล้วพลาดผลิตไม่ทันขาย ออกรุ่นใหม่เกียร์อัตโนมัติสู้ ตั้งเป้าปีนี้ 2.7 แสนคัน ส่วนแบ่ง 13% พร้อมเตรียมศึกษารถ ATV ส่งขายทั่วอาเซียน
นายมาซาโตะ วาตานาเบ้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมลงทุนเพิ่มเติม 700 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 10,000 คัน โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เพื่อให้สามารถเพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ประสบปัญหาผลิตสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงเกิดผลกระทบต่อยอดขายและเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับลูกค้า ดังนั้นคาดว่าการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้น่าจะเป็นแก้ปัญหาการผลิตได้ในระดับหนึ่ง
"ในปีที่แล้วแม้ว่าจะได้ลงทุนเพิ่มเติมไปแล้ว 300 ล้านบาท เพื่อปรับฐานการผลิตเพื่อเตรียมพร้อมกับรถรุ่นใหม่ในปี 2549 นี้ ทำให้เราส่งรถให้กับลูกค้าไม่ทัน ขณะเดียวกันตลาดในภาคใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของซูซูกิก็ประสบปัญหาเนื่องจากสถานการณ์วุ่นวายและยอดขายชะลอตัว แต่ในปีนี้ปัญหาแรกคือ การผลิต ก็ได้ปรับปรุงไปแล้ว ในปีนี้น่าจะทำให้ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งเราก็หวังว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยอาจจะมียอดขายและส่วนแบ่งใกล้เคียงกับคู่แข่ง ส่วนสถานการณ์วุ่นวายด้านการเมืองในขณะนี้อาจจะมีผลกระทบกับตลาดรถจักรยานยนต์ไม่มากนัก และอาจจะเป็นผลกระทบในระยะสั้น ด้านตลาดส่งออกของซูซูกินั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 6,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยอาจจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 6,500 ล้านบาท" ประธานกรรมการ กล่าวและว่า
"นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตรถเพิ่มขึ้นนั้น บริษํทยังได้เตรียมออกรถเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่พัฒนาใหม่หมดอีก 1 รุ่น นอกจากนี้ยังได้เตรียมขยายเครือข่ายการจำหน่ายที่เรียกว่า SUZUKI WORLD ซึ่งเป็นร้านค้าแบบใหม่เพิ่มขึ้นจาก 2 สาขาเป็น 5 สาขา"
นายวาตานาเบ้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบรถ ATV (All Terrain Vehicle) ในประเทศไทย หลังจากพบว่ามีความต้องการรถประเภทนี้และมีการนำรถจากจีนเข้ามาทำตลาดในไทย ซึ่งหากว่ามีการสำรวจพบว่ามีความเป็นไปได้ก็พร้อมที่จะประกอบและขายในไทย รวมถึงส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
สำหรับในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิไว้อย่างน้อย 270,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 13% จากตลาดรวม โดยบริษัทจะเน้นไปตลาดรถครอบครัว ซึ่งเป็นที่นิยมและมีขนาดใหญ่ที่สุด ส่วนในตลาดรถสกู๊ตเตอร์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด โดยในปีนี้ได้มีการเปิดตัวรถครอบครัวที่เป็นรุ่นที่สำคัญของซูซูกิในอนาคต และคาดว่าในปี 2549 นี้คาดการณ์ว่าจะมียอดขายราว 2.05 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นยอดขายสำหรับรถจักรยานยนต์ครอบครัวและครอบครัวกึ่งสปอร์ต 1.33 ล้านคัน และสำหรับรถเกียร์อัตโนมัติที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนั้นคาดการณ์ว่าจะมียอดขาย 700,000 คัน หรือคิดเป็น 34% ของตลาดรวม
สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548 จนถึง กุมภาพันธ์ 2549 ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น อันสืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น และภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รวมมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองและสังคม ส่งผลให้ยอดขายรถจักรยานยนต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย