ซูซูกิ หวังโตตามตลาด ตั้งเป้ายอดขายมอเตอร์ไซค์ปีนี้ 2.7 แสนคัน คาดตลาดรวมทะลุ 2.5 ล้านคันแน่ แม้ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตลาดจะยังไม่ดี คาดหลังจากนี้ยอดขายจะปรับตัวขึ้น หลังค่ายรถส่งรุ่นใหม่ลงตลาดต่อเนื่อง
นายมาซาโตะ วาตานาเบ้ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ว่า ในปี 2548 ตลาดรวมรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยอยู่ที่ 2.1 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดในประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในเดือนพฤศจิกายน 2548 ถึงกุมภาพันธ์ 2548 ตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น และภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมอัตราเงิน เฟ้อ รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองและสังคม ส่งผลให้ยอดขายรถจักรยานยนต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วตกลงเล็กน้อย บริษัทได้คาดการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2549 ไว้ที่ 2.5 ล้านคัน แบ่งเป็นยอดขายรถครอบครัวและรถครอบครัวกึ่งสปอร์ต 1.33 ล้านคัน และรถเกียร์อัตโนมัติ 7 แสนคัน
ส่วนเป้าหมายของ ซูซูกิ นั้น ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 2.7 แสนคัน ครองส่วนแบ่งตลาด 13% โดยบริษัทจะหันไปเน้นตลาดรถครอบครัว ซึ่งเป็นที่นิยมและมีขนาดตลาดใหญ่ที่สุด ส่วนตลาดรถสกูตเตอร์จะพยายามรุกตลาดและเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น
"นับตั้งแต่ปี 2545 ซูซูกิได้ส่งรถจักรยานยนต์รุ่นสแมชเข้าสู่ตลาด จนถึงปัจจุบันชื่อของรถรุ่นนี้เป็นที่จดจำและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เนื่องจากรูปลักษณ์ที่โดนตาและราคาที่โดนใจ และล่าสุดบริษัทได้แนะนำสแมช รีโวลูชั่น ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ตั้งแต่หัวจดท้าย"
สำหรับเป้าหมายของ "สแมช รีโวลูชั่น" นั้น บริษัทได้ปรับดีไซน์ให้ล้ำสมัยและโดดเด่น สะดวกต่อการขับขี่สำหรับผู้หญิง โดยเป้ายอดขายไว้ 1 แสนคันในปีนี้ ตั้งราคาช่วงแนะนำไว้ที่ 34,500 บาทในรุ่นสตาร์ตเท้า ดรัมเบรก และราคา 36,900 บาท ในรุ่นสตาร์ตเท้า ดิสก์เบรก และราคา 38,900 บาท ในรุ่นสตาร์ตมือ ดิสก์เบรก นอกจากนั้นบริษัทยังได้รับประกันการใช้งาน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตรด้วย
ส่วนตลาดรถสกูตเตอร์บริษัทได้แนะนำ "สเต็ป 125" ออกสู่ตลาดในปีที่แล้ว ซึ่งสามารถทำยอดขายจำหน่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดบริษัทได้แนะนำ "สเต็ปไฮ-คลาส" รถรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น โดยออกแบบเป็นพิเศษเพื่อจับกลุ่มวัยรุ่น และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น
"จากสภาวะการแข่งขันที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้อายุของผลิตภัณฑ์สั้นลง ดังนั้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงต้องทำอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดตัวออกสู่ตลาดในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม และด้วยความร่วมมือของซูซูกิ มอเตอร์ อาร์แอนด์ดี เอเซีย ที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย เหมาะสม และรวดเร็วตรง กับความต้องการของลูกค้า จึงทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี"