ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2549 > Honda Racing School จุดเริ่มต้นของพัฒนาก่อนเข้าสู่สนามแข่งอาชีพ
Honda Racing School จุดเริ่มต้นของพัฒนาก่อนเข้าสู่สนามแข่งอาชีพ
ที่มา – แนวหน้า วันที่ 24 เม.ย.49

ความสำเร็จใดๆ ก็ตาม ไม่ได้ได้ใช้เวลาแค่ชั่วข้ามคืน บางคนต้องใช้เวลานาน 1 ปี 5 ปี 10 ปี 20 ปี หรือ....ขณะที่บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตยังค้นหามันไม่เจอ

แต่การที่จะสร้างความสำเร็จใดๆ ก็ตาม ให้เกิดขึ้นมานั้น แน่นอนว่าจะต้องมาจากการวางรากฐานที่ดี เมื่อมีรากฐานที่ดีแล้วเชื่อว่าโอกาสประสบความสำเร็จย่อมมีมากตามมาด้วย เฉกเช่นกับการปั้นนักแข่งอาชีพขึ้นมาประดับวงการกีฬาแข่งรถจักรยานทางเรียบในบ้านเรา การที่จะผลิตนักซิ่งขึ้นมาจำนวนมากนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผลิตขึ้นมาแล้ว ได้ "สเป็ก" หรือ "คุณภาพ" หรือไม่

ซึ่งคำถามนี้มีคำตอบแล้วจากกการสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมของ "เจ้าฟิล์ม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดสองล้อมือ 1 ของไทย วัย 17 ปี ที่สร้างผลงานระดับห้าดาวให้กับวงการด้วยการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปคว้าอันดับ 3 ของการแข่งขันจักรยานนยต์ชิงแชมป์ประเทศญี่ปุ่น สนามแรกของปี 2006

จะพูดว่านี่คือความสำเร็จสูงสุดหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ใช่ แต่เชื่อว่าผลงานชิ้นนี้ของ "เจ้าฟิล์ม" น่าจะเป็นจุดเริ่มที่เขาจะก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์ เป็นบันได้เพื่อนำไปต่อยอดสู่การเป็นนักขับอาชีพที่สมบูรณ์แบบได้ในอนาคต

แน่นอนจุดเริ่มแห่งความสำเร็จครั้งนี้ย่อมมีผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งนั่นก็คือ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ซึ่งมีนโยบายหลักในการปั้นนักแข่งคุณภาพสู่สนามแข่งขันอย่างถูกกฎหมาย จึงได้ริเริ่มโครงการฝึกอบรม "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" ขึ้นมา และหากจะนับวันเวลากันแล้ว โครงการนี้ได้ทำกันมาเป็นเวลากว่า 15 ปี แล้ว ย่างเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว

เป้าหมายหลักของ "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" คือ การสร้างนักแข่งขึ้นในวงการกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบ และตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมานักแข่งเหล่านั้นก็ได้สร้างชื่อเสียงในนามคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ซึ่งโครงการนี้จะอบรมความรู้ด้านการขับขี่ให้กับเยาวชนที่สนใจในกีฬาความเร็วบนท้องถนน เรียนรู้กฎกติกาการแข่งขัน, การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน, เรียนรู้พื้นฐานการเป็นนักแข่งที่ดี และขับขี่ในสนามแข่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งผลิตผลก็มีให้เห็นแล้วอย่าง "เจ้าฟิล์ม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ก็มาจากโครงการ "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" เช่นกัน โดยเมื่อปีที่แล้ว "เจ้าฟิล์ม" ทำผลงานตลอดทั้งปีได้ดีคว้าอันดับ 7 มาครอง และในปีนี้เพียงแค่สนามแรกไอ้หนูวัย 17 ปี ก็คว้าอันดับ 3 มาครอง ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้กับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 5 สนาม รอให้ "เจ้าฟิล์ม" ได้พิสูจน์ฝีมือว่าจะทำได้ดีพอที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักแข่งอาชีพระดับอินเตอร์ได้หรือไม่

คุณอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้ดูแลทางด้านกีฬา ยานยนต์ และโครกงาร "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" บอกว่า การเดินทางไปญี่ปุ่นในปีนี้ของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ทางบริษัทฯ ได้จัดส่งช่างเทคนิกซึ่งเป็นคนไทยติดตามไปด้วยโดยจะมีทีมช่างชาวญี่ปุ่นที่คอยให้ความช่วยเหลืออีกทีม ทว่าเรื่องของการสื่อสารเรื่องภาษาก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ที่สำคัญตรงนี้เราเองมองว่าสำหรับนักแข่งทุกคนแล้ว นอกเหนือจากทักษะการขับขี่ที่ดีและยอดเยี่ยมแล้ว เรายังช่วยฝึกนักแข่งให้มีความรู้ในเรื่องของการปรับจูนเครื่องยนต์ได้ด้วยตัวเอง รู้จักวิเคราะห์เครื่องยนต์ด้วยตัวเอง การเป็นนักแข่งที่ดีได้จะต้องรู้เรื่องเครื่องยนต์ดูอาการรถได้เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้างในสนามแข่งขัน นักแข่งจะต้องรู้จักประคองรถเป็น ไม่ใช่ตะบี้ตะบันขับเป็นอย่างเดียว

บิ๊กบอสของค่ายรถชื่อดัง ยังกล่าวชม "เจ้าฟิล์ม" ด้วยว่า มีขยันและกระหายชัยชนะ ซึ่งนั่นคือจุดเด่นของเขา "ผมมองว่าฟิล์มมีจุดดีตรงที่เป็นนักแข่งดาวรุ่งอายุยังน้อย เขาจึงเป็นนักแข่งที่มีความกระหายในชัยชนะ เป็นนักแข่งที่มีความมุ่งมั่นขยันฝึกซ้อมและมีความทุมเททุกครั้งที่ลงทำการแข่งขัน ส่วนข้อที่ต้องปรับปรุงก็ยังมีคือเรื่องของประสบการณ์และความสุขุม เราเองอาจยังเป็นรองนักแข่งที่มากประสบการณ์"

"เจ้าฟิล์ม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจของเยาวไทยอีกหลายๆ คน ที่ชอบกีฬาความเร็วและอยากก้าวไปถึงจุดฝั่งฝันแห่งการเป็นนักบิดอาชีพ ซึ่ง คุณอารักษ์ พรประภา บอกว่า "น้องๆ คนไหนที่คิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ แต่ยังขาดทักษะและการเรีนยรู้ แต่มีใจรักในกีฬาชนิดนี้จริงๆ ทางบริษัทฯ ก็พร้อมจะสนับสนุนผ่านโครงการฝึกอบรม "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" เพื่อผลักดันสู่การเป็นนักแข่งต่อไป โดยการฝึกอบรม "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" ประจำปี 2549 ที่สนามแข่งรถไทยแลนด์ เซอร์กิต อบรมไปแล้ว 1 ครั้ง ยังเหลืออีก 3 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 วันที่ 24-25 มิ.ย.49, ครั้งที่ 2 วันที่ 26-27 ส.ค.49 และ ครั้งที่ 3 วันที่ 28-29 ต.ค.49 โดยผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามและสมัครได้ที่ตัวแทนจำหน่าย รถจักรยานยนต์ฮอนด้าใกล้บ้าน โดยรับการฝึกอบรม 50 ท่าน/ครั้ง เท่านั้น