ค่ายสองล้อตีปีก โครงการจักรยานยนต์ราคาถูกเพื่อผู้ประกันตนวิ่งฉิว "ฮอนด้า" ส้มหล่นเข็นเวฟ 125 กินรวบ 3 แสนคัน ด้าน "ยามาฮ่า" ส่ง มีโอ 10,000 คัน ร่วมแจม ยันส่งมอบให้ลูกค้าได้ไม่เกินตุลาคมนี้
นายเชี่ยวชาญ รุ่งทวีสุข ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษเพื่อผู้ประกันตน ซึ่งทางสำนักงานประ กันสังคม (สปส.) ร่วมมือกับค่ายรถจักรยานยนต์ทุกค่ายผลิตรถจักรยานยนต์ราคาถูกว่า บริษัทได้รับโควตาจำหน่ายรถจักรยานยนต์สำหรับโครงการดังกล่าวจำนวน 300,000 คัน โดยรถที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวคือ ฮอนด้าเวฟ 125 ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงต้นปีหน้า
"เรามั่นใจกับโครงการนี้มาก ถือเป็นโครงการที่ดี เนื่องจากช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมีโอกาสได้ใช้รถจักรยานยนต์ ดวยสิทธิพิเศษในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และการพิจารณาให้สินเชื่อจากธนาคาร สำหรับรถจักรยานยนต์ที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการนี้จะเป็นรถใหม่ทั้งสิ้น และไม่มีความแตกต่างจากรถจักรยานยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป นอกเหนือจากสีที่ สปส.กำหนดไว้"
ขณะที่นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่า จำกัด กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการที่ดีอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการสนับสนุนให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้มีโอกาสใช้รถจักรยานยนต์ รวมทั้งยามาฮ่าเองก็จะได้มียอดการจำหน่ายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น
โดยบริษัทจะส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติก ยามาฮ่า "มีโอ" จำนวน 10,000 คัน เข้าร่วมโครงการดังกล่าวในปีนี้ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินงานและตกลงในรายละเอียดบางส่วน ทั้งนี้บริษัทยังต้องรอพิจารณาให้สอดรับกับจำนวนของรถจักรยานยนต์ที่ผลิตด้วย
"รถที่เรานำมาเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ เป็นรถใหม่ทั้งหมด โดยจะผลิตตามที่ประกันสังคมกำหนดทุกอย่าง คือมีสีน้ำเงินแถบทอง และเป็นรุ่นยอดนิยมของเรา คือ ยามาฮ่า มีโอ ซึ่งตอนนี้เรา กำลังรอดูยอดสั่งจองและการอนุมัติซื้อจากธนาคารและบริษัทไฟแนนซ์ ถ้าทุกอย่างพร้อมก็คาดว่าจะส่งมอบรถได้ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนได้อย่างแน่นอน"
สำหรับโครงการรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษเพื่อผู้ประกันตนนั้น เป็นแนวคิดของกระทรวงแรงงานที่ต้องการให้ผู้ประกันตนมีโอกาสใช้รถจักรยานยนต์ราคถูก โดยมีบริษัทผู้ผลิตรถจักรยาน ยนต์เข้าร่วมโครงการครบ ทั้งฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ ไทเกอร์ แพลทินัม
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ที่จะนำมาร่วมโครงการครั้งนี้จะเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมและมีจำหน่ายสูงสุดในแต่ละบริษัท โดยเป็นรถที่ผลิตขึ้นในประเทศทั้งหมด และไม่ใช่รถค้างสต๊อกแต่อย่างใด