ในยุโรปมีจำนวนรถจักรยานยนต์รวมทั้งหมด เท่ากับตลาดในประเทศไทย คือ ประมาณ 2 ล้านคัน แต่ว่าประเภทของรถนั้นแตกต่างกัน เพราะว่า ในยุโรปล้วนแล้วแต่เป็น "บิ๊กไบค์" ขนาดใหญ่ และมีจุดประสงค์ในการใช้งานเพื่อสันทนาการ ในขณะที่ประเทศไทย ตลาดหลักคือรถที่มีเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซีซี รวมถึงลักษณะการใช้ก็เพื่อการเดินทางในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
"บิ๊กไบค์ " หรือจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ มากกว่า 250 ซีซี เป็นหนึ่งในเครื่องมือเดินทางที่ใช้แพร่หลายกันทั่วโลก ผู้ขับขี่ บิ๊กไบค์ ในยุโรปส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนที่มีฐานะ ชอบการเดินทาง รักการผจญภัยและชีวิตอิสระ เป็นการขับขี่รถเพื่อการสันทนาการของผู้คนทั่วไป
แต่ว่าในเมืองไทย บิ๊กไบค์กลับไม่แพร่หลายมากนัก ด้วยเหตุผลหลายประการเช่น ราคาที่สูงใกล้กับรถเก๋งมือสอง นอกจากนี้นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ในประเทศ ทำให้รัฐกำหนดภาษีของจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ให้สูงกว่าจักรยานยนต์ทั่วไป ประกอบกับสภาพของถนน และสิทธิของจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในไทยต่างจากยุโรป เพราะสิทธิของบิ๊กไบค์จะมากกว่าหรือเท่ากับรถยนต์ สุดท้ายคือ สรีระคนไทยเองอาจจะไม่เหมาะกับการขับขี่จักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม การสร้างตลาดบิ๊กไบค์ เป็นหนึ่งในแผนการในอนาคตของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในยุคที่มี ทากาฮิโกะ โกอัน ประธานกรรมการบริหาร เข้ามารับผิดชอบ
"ผมมองว่าแนวโน้มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่กำลังมา อนาคตการใช้จักรยานยนต์จะเปลี่ยนไป จากการขนส่งหรือคมนาคมเพียงอย่างเดียว เป็นการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์ การใช้จักรยานยนต์จะเป็นการเดินทางเพื่อการพักผ่อน"
ยามาฮ่า ได้ศึกษาพฤติกรรมการใช้รถจักรยานยนต์ของไทยพบว่า มีกลุ่มลูกค้าผู้หญิงขับจักรยานยนต์มากขึ้น และพบว่าผู้หญิงที่มีฐานะหันมาซื้อรถจักรยานยนต์ไปใช้งานมากขึ้น การเปิดตลาดรุ่น ฟิโน่ ที่มีการออกแบบรถที่สวยงามแนวย้อนยุค สามารถตอบโจทย์นี้ได้ดี
"ฟิโน่ สามารถขยายฐานลูกค้าของจักรยานยนต์ ได้จากเดิมที่มีแต่ผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงที่มีฐานะที่มาซื้อฟิโน่ ไม่ได้สนใจเรื่องความเร็ว ความแรง แต่อยากจะได้ไปใช้งาน เพราะว่ามันเป็นรถที่น่ารัก จากเดิมที่จักรยานยนต์ไม่เคยมีกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้เลย" โกอันระบุ
"ฟิโน่" เป็นรถจักรยานยนต์ ที่ได้รับการกล่าวถึงมากสุดในตลาดเวลานี้จากการชูคอนเซปต์ "สองล้อ ย้อนยุค" โดย ยามาฮ่า สามารถทำยอดขายได้ถึงเดือนละ 2 หมื่นคัน
โกอันบอกว่า แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในตลาดไทย มีจำนวนอยู่เท่าไรแต่ก็มีสัญญาณการเริ่มต้นที่ดี เพราะมีผู้มีฐานะหลายคนเลือกเดินทางด้วยจักรยานยนต์ ซึ่งทำให้รู้ว่ามีคนต้องการผลิตภัณฑ์นี้อยู่และอนาคตก็จะเห็นผลิตภัณฑ์ยามาฮ่าในตลาด
ทุกวันนี้ผู้บริหารของ ยามาฮ่า ต้องทดสอบตลาดด้วยตัวเองทุกครั้งที่มีกิจกรรมในต่างจังหวัด ผู้บริหารเหล่านี้จะเดินทางด้วยจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการทดสอบตลาดไปในตัว รวมถึงเป็นการทดลองใช้รถขนาดใหญ่ ซึ่งโกอันบอกว่าการส่งเสริมตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นในไทยเป็นหนึ่งในความฝันลึกๆ ของเขาในการเข้ามาบริหาร ยามาฮ่า ในประเทศไทย
"ลักษณะการสร้างไลฟ์สไตล์เช่นนี้ คือสิ่งที่ ยามาฮ่า อยากจะสร้างขึ้น ผมเชื่อว่าสภาพอากาศ และการรักการขับขี่จักรยานยนต์จะทำให้ตลาดนี้เป็นตลาดที่มีอนาคต ผมอยากเห็นคนขับขี่จักรยานยนต์เพื่อท่องเที่ยว ขับขี่เป็นงานอดิเรก" โกอันระบุ
สำหรับจักรยานยนต์ของ ยามาฮ่า แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ
(1) สตาร์ (STAR) ซึ่งเป็นรถครุยซ์ที่ใช้เดินทาง รุ่นสำคัญเช่น รอยัล สตาร์ โรดไลน์เนอร์ โรดสตาร์ วอริเออร์ วี -แมค วีราโก วี สคาร์ เป็นต้น
(2) ซีรีส์ สปอร์ต (Sport) รถที่มีสมรรถนะสูง เพื่อเดินทางหรือแข่งขัน รูปทรงแบบสปอร์ต ออฟโรด เช่น รุ่น เอทีวี สปอร์ต ออฟโรด มอเตอร์ไซค์ สตรีท สกู๊ตเตอร์รุ่นต่างๆ
(3) เอาท์ดอร์ (Outdoor) หรือรถในกลุ่มเอทีวี รถกอล์ฟและอุปกรณ์ต่างๆ
สำหรับ บิ๊กไบค์ นั้นอยู่ในซีรีส์ สตาร์และสปอร์ตเป็นหลัก
นอกจากแผนการสร้างกระแสสองล้อยักษ์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ ยามาฮ่า ยุค โกอัน ฝันไว้ คือ หากเป็นไปได้เขาอยากจะส่งเสริมให้เมืองไทยมีฮีโร่เพิ่มขึ้นด้วยการเป็นนักแข่งรถเหมือนกับที่ ยามาฮ่า เป็นผู้สนับสนุนให้ "วาเลนทิโน รอซซี่" นักแข่งรถชาวอิตาลี ทีมยามาฮ่าซึ่งเป็นแชมป์โลก เวิลด์ จีพี อยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น ยามาฮ่า จะมีการส่งเสริมมอเตอร์สปอร์ต แต่ว่าอย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่สนามการแข่งขันในเมืองไทยนั้นมีขนาดเล็ก และยังไม่สามารถรองรับการแข่งขันรายการใหญ่ๆ ของโลกได้
"เมื่อรถใหญ่เข้าสู่ตลาดไทย อนาคต 10 ปีหรือ 20 ปี ก็ได้เราอาจจะมี ฮีโร่เพิ่มขึ้นอีก เพราะว่าคนไทยมีฮีโร่เป็นนักมวยไทย ซึ่งการเพิ่มฮีโร่ โดยการส่งเสริมให้ไปแข่งรถใหญ่ ก็จะเป็นการสร้างตลาดรถใหญ่ขึ้นมา วันนี้เราต้องเริ่มก่อน"
นอกจากการศึกษาการเปิดตลาดบิ๊กไบค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจของยามาฮ่าแล้ว ในปีหน้ายามาฮ่ามีแผนจะทำตลาดผลิตภัณฑ์ อื่นๆ เพิ่มเติมอย่างจริงจัง นอกเหลือจากจักรยานยนต์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้แก่ รถกอล์ฟ จักรยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ เป็นต้น