ระยะเวลา 9 เดือนของ "มร.ทากาฮิโกะ โกฮัน" ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ มองเห็นว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ของไทยยังมีช่องว่างและโอกาสสำหรับยามาฮ่า แม้ว่าตลาดจะไม่ขยายตัวแบบก้าวกระโดดอันเป็นผลจากเริ่มจะก้าวเข้าสู่ยุคอิ่มตัว และนับจากนี้ ยามาฮ่า พร้อมที่จะรุกตลาด ตามปรัชญาของยามาฮ่าภายใต้การบริหารตามสไตล์ของ มร.ทากาฮิโกะ โกฮัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด
ประสบการณ์บริหาร
ผมเริ่มต้นร่วมงานกับฝ่ายขายของยามาฮ่าเมื่อ 29 ปี ก่อนที่จะเติบโตและไปรับผิดชอบตลาดในประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคยุโรป และอีกหลายภูมิภาค ทั้งอินเดีย อเมริกา แอฟริกา รวมถึงตลาดอาเซียนและประเทศไทย จนกระทั่งล่าสุดเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารที่ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ ซึงตลาดของไทยนั้นผมมองเห็นว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ สภาพอากาศเอื้อต่อการขับขี่รถ
ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย
ตลอดระยะเวลา 9 เดือนในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นและอีกหลากหลายเหตุการณ์ แต่เหตุการณ์เหล่านี้ ก็ส่งผลกระทบกับยอดขายมอเตอร์ไซด์ไม่มากอย่างที่คิดไว้ ผู้บริโภคไทยก็ยังคงใช้จ่ายและซื้อรถใหม่กันเหมือนเดิม ความแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ดังนั้นในภาพรวมแล้วคาดว่าในปีนี้และปีต่อๆไป ยอดขายจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคัน เนื่องจากยอดขายในอดีตได้ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ตลาดเริ่มเข้าสู่ยุคที่ใกล้จะอิ่มตัว โดยปัจจุบันมีอัตราการถือครอง 4 คนต่อรถ 1 คัน
ผลประกอบการยามาฮ่า
ตอนนี้ยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดของยามาฮ่า เป็นที่น่าพอใจสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้มากกว่าภาพรวมของตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากปรัชญาการดำเนินธุรกิจ ยามาฮ่ามองว่ารถจักรยานยนต์ไม่ได้เป็นแต่เพียงพาหนะในการเดินทาง แต่มันคือสิ่งที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ด้วย นอกจากนี้ผลการวิจัยและพัฒนาคุณภาพ ดีไซน์ และการทำตลาด ทำให้เราได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเข้ามา อย่างเช่นรถรุ่น ฟีโน่ ที่เป็นรถเกียร์อัตโนมัติแบบโมเดิร์นคลาสสิค ก็มีกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ที่มีรถยนต์อยู่แล้วเข้ามาซื้อกันมาก ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ซื้อเพราะว่ารถมีกำลังแรง วิ่งได้เร็ว แต่ซื้อเพราะไลฟ์สไตล์
รถรุ่นไหนที่ผลักดันยอดขาย
ยอดขายที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากรถหลายรุ่นที่ทำตลาดอยู่ แต่สำหรับฟีโน่ ก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี ยอดขายค่อนข้างมาก และสำหรับในปี 2550 นั้นก็คาดว่าภาพรวมของยามาฮ่าอาจจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นราว 10% โดยมียอดขายในปีนี้ราว 4.85 แสนคัน ขณะที่ตลาดรวมของรถทุกยี่ห้อน่าจะไม่แตกต่างจากปีนี้คือ 2 ล้านคัน
แผนการลงทุน
การปรับปรุงกระบวนการผลิต การเพิ่มคุณภาพสินค้า การวิจัยและพัฒนา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ยามาฮ่าต้องลงทุนเพื่อปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้น รวมถึงการลงทุนเพื่อประกอบรถรุ่นใหม่ๆ อีกทั้งประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญและมีความล้ำหน้ากว่าตลาดอื่นๆ ในอาเซียน ดังนั้นรถรุ่นใหม่ๆมักจะเปิดตัวและทำตลาดก่อนประเทศอื่นๆ โดยรวมแล้วในแต่ละปีเราลงทุนราว 1 พันล้านบาท ในประเทศไทย สำหรับทุกแผนก
อนาคตและแนวโน้มยามาฮ่า
เราเคยพูดถึงว่า ยามาฮ่าจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด หรือ Trend Setter ดังนั้นการมองไปข้างหน้าคือสิ่งที่จำเป็น ตอนนี้ตลาดรถเกียร์อัตโนมัติกำลังไปได้ดี แต่ในอนาคตเราก็กำลังหารถรุ่นใหม่ประเภทใหม่เข้ามา ซึ่งสิ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในเวลานี้ก็คือ รถบิ๊กไบต์ ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอผลการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชื่นชอบรถประเภทนี้ และจากประสบการณ์ก็พบว่ารถประเภทนี้ได้รับความนิยมในยุโรป รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ตลาดรถจักรยานยนต์อิ่มตัวแล้ว
ตลาดบิ๊กไบต์
หากจะให้เทียบระหว่างตลาดรถเกียร์อัตโนมัติและรถบิ๊กไบต์ คงไม่เหมือนกันซะทีเดียว รถเกียร์อัตโนมัติราคาถูกกว่า และผู้คนซื้อหาง่ายกว่ารถบิ๊กไบต์ บิ๊กไบต์เสียภาษีนำเข้าแพง และเราเองก็ยังไม่มีแผนการประกอบรถประเภทนี้ในไทยด้วย ดังนั้นเราคงไม่สามารถที่จะคาดการณ์ยอดขายได้ว่าเท่าไร แต่แน่นอนว่าตลาดย่อมเล็กกว่า อย่างไรก็ตาม การทำตลาดรถประเภทนี้ต้องมีการสร้างองค์ประกอบและสิ่งแวดล้อมที่จะเอื้อให้ลูกค้ามีความรู้สึกไปกับรถเหล่านี้ด้วย ในบางประเทศที่ผู้คนชื่นชอบนักแข่งรถจักรยานยนต์ก็อาจะมีผลต่อธุรกิจซื้อขายรถบิ๊กไบต์
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
นอกเหนือจากรถจักรยานยนต์แล้ว ยามาฮ่าก็มีผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย เรือ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีแนวโน้มที่ดี เพราะคนไทยก็ชอบกิจกรรมสันทนาการทางนี้ เช่นตกปลา หรือกีฬาทางน้ำ นอกจากนี้ยามาฮ่าก็กำลังมองหาสินค้าอื่นๆ มาเพิ่ม เพื่อความหลากหลาย ซึ่งเราก็มองถึงเครื่องยนต์อเนกประสงค์ หรืออาจะเป็นรถกอล์ฟ เนื่องจากเมืองไทยมีสนามกอล์ฟเยอะ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
มร.โกฮัน กล้าวทิ้งท้ายถึงการที่รถจักรยานยนต์จากประเทศจีนเข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นนั้น ไม่มีผลต่อยามาฮ่าแต่อย่างไร และตนก็ไม่ได้สนใจกับตลาดรถราคาถูก ซึ่งมีคุณภาพตามราคา ขณะที่กยามาฮ่านั้นจะเน้นขายรถที่มีคุณค่า และสิ่งที่เป็นไลฟ์สไตล์สำหรับลูกค้า