หลังจากที่ค่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าตัดสินใจรีแบรนดิ้งใหม่ สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับสร้างปรากฎการณ์ด้วยการบุกเบิกตลาดรถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกขึ้นมาอีกใหม่ ด้วยงบประมาณมหาศาล จนสามารถสร้างกระแสความนิยมรถประเภทได้อย่างรวดเร็ว จนค่ายรถรายอื่นๆต้องหันมาพัฒนารถออโตเมติกมาแข่งขันด้วย ล่าสุด ยามาฮ่า ได้เปิดตัวรถออโตเมติกรุ่นใหม่"ฟีโน่"ที่ฉีกแนว รูปลักษณ์แบบย้อนยุค ผลการตอบรับเป็นอย่างไร ต้องติดตามจากปากคำของ จินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด
การตอบรับของลูกค้าที่มีต่อ ยามาฮ่า ฟีโน่
ลูกค้าทั่วประเทศให้กับตอบรับยามาฮ่า ฟีโน่ เกินความคาดหมาย จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าการขายไว้พียงเดือนละ 10,000 คัน แต่ทุกวันนี้ มียอดขายต่อเดือนเกือบ 20,000 คัน เนื่องจากบริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้รถจักรยานยนต์มาก่อน ซึ่งจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษาที่เรียนด้านดีไซน์ หรืออาจเป็นกลุ่มที่มีรถยนต์ขับอยู่แล้ว แต่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง และชื่นชอบดีไซน์ที่น่ารัก ออกไปทางกระแสย้อนยุค บางกลุ่มต้องการใช้ยามาฮ่า ฟีโน่ ตามพรีเซ็นเตอร์ "กอล์ฟ-ไมค์"
อย่างไรก็ตาม ยอดขายส่วนใหญ่ของยามาฮ่า ฟีโน่ ยังคงมาจากกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นประจำ ซึ่งมีให้นักศึกษามหาวิทยาลัย นักเรียนพาณิชย์ ผู้ที่มีอาชีพด้านครีเอท เป็นกลุ่มมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง ซึ่งเดิม ยามาฮ่ามีรถที่เคยกันผลิตในญี่ปุ่นในชื่อ วีโน่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 50 ซีซี. ขับขี่ได้เพียงคนเดียว แต่ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ ได้พัฒนาฟีโน่ ขึ้นมาใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น สามารถซ้อนท้ายได้ โดยมีดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค
การคาดการณ์ยอดขายรวมของปี 2549
ตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยมาตลอดทั้งปี ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้คาดการณ์ว่า ยอดขายรวมของปีนี้ จะอยุ่ที่ประมาณ 2 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปี 2548 ที่มียอดขายรวม 2.04 ล้านคัน สำหรับยามาฮ่า เคยตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นปีเกือบ 500,000 คัน แต่เมื่อมองเห็นปัจจัยลบต่างๆ จึงปรับลดเป้าลดลงเล็กน้อย ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยคิดว่า น่าจะมียอดขายทั้งปีที่ 485,000 คัน หรือปรับเพิ่มขึ้น 20-30% ซึ่งนับว่า ขยายตัวมากกว่าตลาดรวมหลายเท่าตัว ซึ่งทุกคนก็พอใจกับยอดขายขนาดนี้
ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม
เมื่อมีปัญหาน้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคเหนือ ไทยยามาฮ่าได้จัดส่งทีมช่างไปเสริมให้กับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ 7-8 จังหวัดที่ประสบภัยอย่างทันที เพื่อซ่อมแซมรถที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ผ้าห่ม ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในอำเภอรอบนอกด้วย
ส่วนน้ำท่วมในเขตภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นสิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งบางพื้นที่ปริมาณน้ำลดลงแล้ว ทางบริษัทจึงได้จัดทีมเซอร์วิสให้เสริมทีมของตัวแทนจำหน่าย ทำการซ่อมแซมรถที่ถูกน้ำท่วมให้ฟรี โดยทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น ไส้กรอง สายพาน น้ำมันเกียร์ ซึ่งแต่ละคัน บริษัทจะรับภาระค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาท โดยบริษัทได้ช่วยเหลือซ่อมแซมไปแล้วกว่า 10,000 คัน นอกจากนี้ ยังมอบเงินช่วยเหลือไปที่จังหวัดๆ ละ 500,000 บาท
ผลตอบแทนที่คิดว่าจะได้รับ
ถือเป็นการช่วยเหลือสังคมกลับคืน โดยบริษัทให้การช่วยเหลือตัวแทนจำหน่ายและลูกค้ารถยามาฮ่า ช่วยซ่อมรถให้ฟรี เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าในช่วงที่ประสบภัย ซึ่งจะทำให้เขาเป็นลูกค้าของเราตลอดไป ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแนวคิดช่วยเหลือลูกค้าด้วยการยืดค่าผ่อนรถออกไปสักระยะหนึ่ง เนื่องจากน้ำท่วมครั้งใหญ่นานหลายเดือน ลูกค้าเดือดร้อนไม่มีรายได้ ซึ่งคาดว่า ตัวแทนจำหน่ายซึ่งรู้จักพื้นที่มากกว่าจะเป็นผู้ดำเนินงานในด้านนี้
เนื่องจากที่ผ่านมา ยามาฮ่า สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20-30% โดยบางพื้นที่ไม่มีน้ำท่วม ยอดขายก็ยังพุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งจุดนี้สามารถมาชดเชยยอดขายที่หายไปจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมได้มาก