ยามาฮ่า ฉีกโมเดลธุรกิจสองล้อเกียร์อัตโนมัติ มุ่งขายความต่างสร้างภาพผู้นำตลาด ดิสเพลย์ในร้านเสื้อผ้าแฟชั่น พิมพ์ลายบนบัตรเติมเงิน ยุทธการดัน "ฟีโน่" ขึ้นแท่นขวัญใจวัยโจ๋และอาร์ติสท์กระเป๋าหนัก
นอกจากพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ "กอล์ฟ - ไมค์" ศิลปินฮอตสุดป๊อปที่กำลังเป็นขวัญใจวัยรุ่นทั่วเอเชีย ภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง คือ “Classic to Modern” และ “Break the Rules” ปูพรมทุกสื่อประเภททั้งทีวี วิทยุ บิลบอร์ด รวมถึงสิ่งพิมพ์ และกิจกรรมเปิดตัวอย่างต่อเนื่องใน 8 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ในช่วง 2 เดือน หลังเปิดตัว ภายใต้กลยุทธ์การตลาดย้อนยุค ขายความคลาสสิก (Retro Marketing) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสองล้อเกียร์อัตโนมัติ (Trend Setter)
เกมรุกสองล้อระลอกใหม่ของยามาฮ่า ที่สร้างความต่าง (Differentiation) จากการทำตลาดรูปแบบเดิมของรถจักรยานยนต์ เมื่อบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ยก “ฟีโน่” เข้า FACTORY OUTLET ของ U-FO นอกเหนือจากการจัดดิสเพลย์ตามสถานที่ต่างๆ
จินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด อธิบายถึงรูปแบบการทำตลาดของยามาฮ่าฟีโน่ ว่า นอกจากต้องการสร้างความแตกต่างของตัวผลิตภัณฑ์ ยังต้องการขยายฐานการตลาด และขยายกลุ่มผู้ใช้ไปสู่กลุ่มใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คลาสสิกด้วยรถจักรยานยนต์ ซึ่งอาจจะเป็นรถคันที่ 2 ของคนที่มีรถกระบะก็ได้
“U-FO ทำเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ยามาฮ่ามา 2-3 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเสื้อผ้าของเราจำหน่ายอยู่ในช็อปของ U-Fo เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เห็นว่าด้วยดีไซน์ และกลุ่มเป้าหมายของ FINO ไปด้วยกันได้กับ U-FO ซึ่งชื่อก็มีความหมายอยู่แล้วว่า สบายๆ รู้สึกดี และแจ่มใส เราจึงได้มีการนำรถรุ่นดังกล่าวไปจัดโชว์ในช็อป” ปัจจุบัน “ฟีโน่” มีโชว์อยู่ใน U-FO CLOTHING COMPANY รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง
“ฟีโน่ จัดโชว์เฉพาะใน OUTLET ของ U-FO ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า โดยนำไปโชว์ทั้งแบบ retro pop และ retro premium ขึ้นอยู่กับพื้นที่ช้อปและกลุ่มเป้าหมาย” จินตนา กล่าว
เกมการตลาดเชิงรุกของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ยังคงถูกขับเคลื่อนต่อ การทำโค-โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเติมเงินแฮปปี้ ในลักษณะของการเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนของรางวัล ด้วยรถจักรยานยนต์ “ฟีโน่” จำนวน 60 คัน แลกกับพื้นที่โฆษณาสินค้า บนบัตรเติมเงิน เป็นอีกช่องหนึ่งในการสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายตลาดไปสู่ผู้ซื้อกลุ่มใหม่ตามกลยุทธ์เชิงรุกของยามาฮ่า บัตรเติมเงินลายฟีโน่ที่กระจายไปทั่วประเทศ น่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักเราเพิ่มขึ้น และเพื่อไม่ให้เสียคอนเซปต์ของฟีโน่ ที่เน้นความต่างด้านดีไซน์ บัตรเติมเงินแฮปปี้ที่เกิดจากความร่วมมือทางการตลาดครั้งนี้ระหว่างดีแทค ยามาฮ่า และพันธมิตร จึงต้องมีดีไซน์ ด้วยส่วนโค้ง-เว้าขอบบัตร แทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นชุดที่ผ่านๆ มา
ผลจากการทำตลาดในช่องทางใหม่ๆ บวกกับประสบการณ์และศึกษาตลาดมานานกว่า 3 ปี เชื่อว่าจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติโมเดิร์นคลาสสิก ดีไซน์ย้อนยุคจะสามารถสร้างฐานผู้ซื้อกลุ่มใหม่ๆ ซึ่งช่วงแรกพุ่งเป้าไปที่ “ดารา” “เอเยนซี” “ครีเอทีฟ” และผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ในลักษณะ THE ART OF AUTOMATIC
“จากประสบการณ์ในการทำตลาดรถจักรยานยนต์ ทำให้รู้ว่ากว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ใช้เป็นวัยรุ่นผู้ชาย ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน จึงต้องมีฟีโน่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ มีดีไซน์แบบโมเดิร์นคลาสสิก”
ส่วนราคาขายที่ตั้งไว้ 4.1-4.25 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าคู่แข่งในตลาดประมาณ 2-3 พันบาทต่อคันนั้น จินตนา บอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาดและที่สำคัญต้องการที่จะให้สะท้อนความเป็นพรีเมียมแบรนด์อย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของคุณภาพสินค้า และดีไซน์ “แตกต่าง” ด้วยเชิงชั้นทางการตลาด และดีไซน์ บวกกับกระแสนิยม “ย้อนยุค” ภารกิจหนุน “ฟีโน่” ขึ้นแท่นตำแหน่งผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ คือปลายทางธุรกิจ
แต่เป้าหมายแรกที่ต้องสำเร็จ คือ ยอดขาย 10,000 คันต่อเดือน ตามประกาศของ “ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์” รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ณ วันงานเปิดตัว