“เจ้าพ่อสองล้อเกียร์ออโต้” ยามาฮ่า คลอดโปรเจคยักษ์ โรงเรียนฝึกอบรมการขับขี่ “Yamaha Safety Riding Academy” มูลค่ากว่า 300 ล้าน บนถนนบางนา-ตราด กม.21 โดยจะเป็นศูนย์ฝึกอบรมเบื้องต้น และเสริมทักษะขับขี่ปลอดภัย แก่ประชาชนทั่วไป ฟรีสิ้นปีนี้ ที่สำคัญเตรียมเจรจากรมขนส่งทางบกเปิดสอบใบขับขี่ได้ทันที ด้านรถใหม่พร้อมลุยตลาดบิ๊กไบค์ นำเข้า 6 รุ่นรวด ดีเดย์ “มอเตอร์โชว์ 2007” ราคาเริ่มต้น 3 แสนบาท ตั้งเป้าปีแรก 200-300 คัน ขณะที่ตลาดส่งออกหวัง สปาร์ค 135 และ นูโว ใหม่ ทำยอด
ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียม สร้างโรงเรียนฝึกอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือ Yamaha Safety Riding Academy มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณหน้าโรงงาน ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ถนนบางนา-ตราด กม.21
“บริษัทฯ เคยประกาศว่า ในปีนี้จะทุ่มงบ 700 ล้าน เพื่อซื้อเครื่องจักร ปรับปรุงโชว์รูม ศูนย์บริการ และพัฒนาบุคลากร ดังนั้นบริษัทฯจึงแบ่งงบส่วนนี้เพื่อนำมาสร้าง Yamaha Safety Riding Academy แบ่งเป็นค่าที่ดิน 200 ล้านบาท ส่วนอาคารและอื่นๆอีก 100 กว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้”
สำหรับ Yamaha Safety Riding Academy นอกจากจะฝึกอบรมให้กับบุคลากรของยามาฮ่าแล้ว จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงหน่วยงานต่างๆ เข้ามาใช้บริการ ทั้งสอนการขับขี่เบื้องต้น การเสริมทักษะ และขับขี่ปลอดภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เจรจากับกรมขนส่งทางบกเพื่อให้โรงเรียนแห่งนี้ออกใบอนุญาตขับขี่ได้ทันที
นายประพันธ์ กล่าว่า แม้จะมีหลายค่ายได้เริ่มทำโรงเรียนฝึกอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่แล้ว แต่บริษัทฯในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนนเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา ได้จัดโครงการฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัยเป็นประจำ โดยเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ตกปีละ 40-50 ครั้งอยู่แล้ว
“ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของบริษัทฯ ในปัจจุบันเริ่มดีขึ้นมาก ขณะเดียวกันต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ดังนั้น Yamaha Safety Riding Academy ถือเป็นโครงการสำคัญ บริษัทฯตั้งใจคืนกำไรให้สังคม ทั้งยังจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกทางหนึ่ง”
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึง การส่งออกรถจักยานยนต์ยามาฮ่าในปีนี้ ว่า เตรียมเพิ่มการส่งออกในแบบ สำเร็จรูปทั้งคัน (CBU) มากขึ้น จาก 2-3 หมื่นคันในปี 2549 เพิ่มเป็น 5 หมื่นคันปี 2550 (ไม่นับรวมชิ้นส่วนประกอบ CKD)โดยจะเน้นไปแถบยุโปทั้ง กรีซ และตุรกี ส่วนในอาเซียนยังเป็นตลาดหลักเหมือนเดิม ทั้ง มาเลเชีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม โดยอยู่ภายใต้กรอบ เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟต้า (AFTA)
“รุ่นหลักๆ ที่ทำการส่งออกปีนี้จะมี ยามาฮ่า สปาร์ค 135 และ “นูโว ใหม่” ที่อาจเปิดตัวในเมืองไทยด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังไม่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิต ถึงแม้ปัจจุบันโรงงานไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ถนนบางนา-ตราด มีกำลังผลิต 6 แสนคันต่อปี หรือ 80% จากไลน์การผลิตทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเริ่มอิ่มตัว ”
สำหรับแผนงานอื่นๆในปีนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่นแล้ว บริษัทฯ ยังเริ่มทำตลาด รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือ “บิ๊กไบค์” เต็มตัว พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ 2007 นี้ ซึ่งจะนำเข้ามาประมาณ 6 รุ่น ในเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250 ซีซี ถึง 1300 ซีซี ราคาเริ่มต้นที่ 3 แสนบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการไว้ให้รถประเภทนี้โดยเฉพาะ โดยปีแรกตั้งเป้าหมาย 200-300 คัน นายประพันธ์ กล่าว