"แพล็ทตินั่ม"มอเตอร์ไซด์ สัญชาติจีนขายฝืด เหตุเพราะผู้ซื้อคนไทยยังขาดความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบริการ และอะไหล่ วอนบริษัทแม่เปิดเกมรุกด้านการตลาดให้มากขึ้น ด้าน ค่ายมอเตอร์ไซด์จากญี่ปุ่นยังแข่งกันดุ อัดแคมเปญปั้มยอดอย่างต่อเนื่อง ทั้งแย่งลูกค้านักเรียนในระดับมัธยม
จากการสำรวจตลาดของ "ฐานเศรษฐกิจ" ไปยังตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ "แพล็ทตินั่ม" ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซด์ผลิตในประเทศจีนที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อปลายปี 2549 ที่ผ่านมา ตั้งตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนประกอบด้วยชุมพร, ระนอง, พังงา ในแง่ของการตอบรับของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทย พบว่าว่าขณะนี้ยอดการขายรถมอเตอร์ไซด์ยี่ห้อแพล็ทตินั่มฝืดมาก บางเดือนแทบจะไม่มีความเคลื่อนไหว
แหล่งข่าวจากตัวแทนรถจักรยานยนต์แพล็ทตินั่ม รายหนึ่ง กล่าวว่าหากสถานการณ์เป็นไปในลักษณะนี้อีกระยะคงจะเริ่มมีปัญหากับผู้แทนจำหน่าย ที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าสถานที่ ค่าการบริหารจัดการต่างๆ
"แม้ว่าราคาจำหน่ายรถแพล็ทตินั่มจะวางราคาจำหน่ายต่ำกว่ารถจักรยานยนต์จากค่ายญี่ปุ่นมาก แต่ในแง่การยอมรับจากผู้บริโภคถือว่ายังต่ำมากทั้งความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบริการ และอะไหล่ รวมถึงคุณภาพของตัวรถ เครื่องยนต์ ทั้งหมดยังเป็นที่คลางแคลงใจของผู้บริโภคจนส่งผลกระทบต่อยอดการขาย ที่ผู้บริโภคจะหันไปตัดสินใจเลือกซื้อรถจักรยานยนต์จากค่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีฐานตลาดที่มั่นคงกว่า"
นอกจากนั้นยังพบว่า ทางผู้จัดจำหน่ายรถแพล็ทตินั่มวอนร้องขอให้บริษัทแม่เร่งทำตลาดในเชิงรุกให้มากกว่านี้ อย่างน้อยในแง่ความเชื่อมั่น และความคุ้นเคยต่อแบรนด์สินค้า รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมขายเพื่อกระตุ้นตลาดในลักษณะอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันยอดขาย รวมถึงการสร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคคนไทยให้มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับรถยนต์สัญชาติเกาหลีที่ต้องพ่ายแพ้ต่อการแข่งขันจนต้องพับฐานกลับไปในที่สุด
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าตลาดเมืองไทยมีความแตกต่างจากตลาดหลายๆประเทศ คนไทยจะมีค่านิยมที่แปลกกว่าหลายชาติดังนั้นต้องเข้าใจ และเข้าถึงความรู้สึก ราคาที่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยไม่สามารถผูกมัดใจคนไทยได้
ด้านนายฐากูร สุขรินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิในเขต 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยถึงตลาดรถมอเตอร์ไซด์ในปีนี้ว่าตลาดโดยรวมว่าตลาดซบเซากว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่ยังมีปัญหา รวมถึงตัวแปรทางด้านการเมือง ที่ยังเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้แต่ละบริษัทต้องทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทได้ประสานกับดีลเลอร์ในแต่ละจังหวัด แต่ละเขตพื้นที่การขาย เน้นการส่งเสริมการขาย ในลักษณะการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงเช่นการออกหน่วยบริการตามชุมชนต่างๆ หรือการออกบูธจัดโชว์สินค้า แนะนำให้ผู้บริโภครู้จักรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ
"นอกจากนี้เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างยิ่งขึ้นขณะนี้ทางบริษัทได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆภายในจังหวัด จัดโครงการอบรมให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยในการขับขี่แก่ตัวแทนเยาวชนของแต่ละโรงเรียน เพื่อเสริมสร้างการขับขี่ที่ปลอดภัยและถูกต้องให้แก่กลุ่มเยาวชน รวมถึงเป็นการสร้างแบรนด์อิมเมจกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเพื่อผลต่อการตัดสินใจซื้อในอนาคต "
สำหรับยอดการขายในช่วง 2 เดือนที่เขายอมรับว่า ผ่านมาลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ส่วนยอดขายโดยรวมในปีนี้คงต้องรอดูตัวแปร และปัจจัยลบปัจจัยบวกที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 2-4 แต่ดูจากแนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะลดลงกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลต่อสถานการณ์การแข่งขันในตลาด ที่คาดว่าจะรุนแรงดุเดือดอย่างแน่นอน เพราะแต่ละบริษัทก็ต่างต้องดิ้นรนเพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงต้องต่อสู้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งจากจีน และมาเลเซียที่หมายมั่นปั้นมือจะเข้ามาขอเอี่ยวในตลาดเมืองไทยให้ได้ ซึ่งคงต้องต่อสู้กับเจ้าของฐานตลาดเดิมที่คงจะไม่ยอมเช่นกัน