ยามาฮ่าทุ่ม 700 ล้านลุยตลาด กระตุกยอดหลัง 2 เดือนแรกของปีหดตัว 15-16% ขณะที่ตลาดรวมโตลดลง 11% ลั่นขอแชร์ 27% ปีนี้
นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางงบประมาณในการทำตลาดยามาฮ่าปีนี้ไว้ที่ 700 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดสรรการใช้งบให้เหมาะกับตลาดมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 200 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโรงงาน ทั้งในส่วนของคลังสินค้าและสนามฝึกสอนการขับขี่ปลอดภัย ที่จะสร้างและเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้
สำหรับงบประมาณที่เหลืออีก 500 ล้านบาท จะใช้สำหรับจัดกิจกรรมการตลาดไปยังผู้บริโภคผ่านตัวแทนจำหน่ายของยามาฮ่า ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ตลาดมอเตอร์ไซค์มีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ สภาพตลาดรวมในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่า หดตัวไปแล้วกว่า 11% ขณะที่ในส่วนของยามาฮ่าเองหดตัวมาก กว่าตลาด หรือลดลงราว 15-16% แต่หากดูจากยอดการจดทะเบียนแล้ว ยามาฮ่ายังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ 24% ไว้ได้เท่ากับในปีที่ผ่านมา ที่ทำไว้ได้ 4.65 แสนคัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมของตลาดในช่วง 2 เดือนแรกจะไม่สดใส แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายลง รวมถึงอาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น กล้าใช้จ่ายมากขึ้น และน่าจะทำให้ภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้หดตัวราว 10% หรือคิดเป็นยอดขายทั้งสิ้น 1.75 ล้านคัน โดยยามาฮ่าตั้งเป้ายอดขายที่ 4.65 แสนคัน เท่ากับปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 27%
“เชื่อว่าผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เรายังหวังว่าตลาดในช่วงฤดูขายน่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง” นางจินตนา กล่าว
สำหรับภาพรวมของยามาฮ่า สแควร์นั้น ได้เปิดตัวไปแล้ว 200 แห่ง และมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 60-80 แห่งในปีนี้ โดยตั้งเป้าขยายยามาฮ่า สแควร์ ให้ได้ครบ 400 สาขา ในปี 2553 ส่วนการเรียกคืนรถและสายพานซีวีทีในรุ่นมีโอและฟีโน่นั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อแผนงาน โดยมีลูกค้านำรถมาเคลมเพียง 7 รายเท่านั้น