ผลพวงจากมติคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดวันหยุดชดเชยเนื่องในเทศกาลสงกรานต์โดยตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 17 เมษายน 2550 กรมการประกันภัย จึงได้โหมเดินสายกระตุ้นรณรงค์ภาคประชาชนให้เห็นความสำคัญของการทำประกันภัย ภายใต้โครงการ "ประกันภัยห่วงใยประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2550" แนะตรวจสอบอายุกรมธรรม์ก่อนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านบริษัทประกันภัยจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเท่าตัวเพื่อออกให้บริการลูกค้าที่ประสบอุบัติเหตุในช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้ พร้อมปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์รณรงค์ "ขับขี่ปลอดภัย เปิดไฟใส่หมวกกันน็อก" ทั่วเมืองโคราช
ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ความปลอดภัยและสนับสนุนมาตรการป้องกันการลดอุบัติเหตุจราจรของจังหวัดนครราชสีมา และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจประกันภัย รวมถึงให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงภัยจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ตลอดได้เวลา
นายจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า กรมการประกันภัย ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยและ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด จัดโครงการประกันภัยห่วงใยประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2550 ตามภูมิต่างๆ โดยครั้งนี้จัดขึ้นที่ จ.นครราชสีมาซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยมีกิจกรรมสนับสนุนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น มอบหมวกกันน็อกแก่อาสาสมัครประกันภัยจำนวน 300 คน, มอบหมวกกันน็อกแก่โรงเรียน ตามโครงการโรงเรียนให้ยืมหมวกกันน็อก, มอบหมวกกันน็อกแก่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตามโครงการ "โคราชปลอดภัย ยืมหมวกนิรภัยเอื้ออาทร" และมอบโล่แก่สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงตัวแทนเครือข่ายวิทยุอาสาสมัครเล่นที่ไห้ความร่วมมือในการแจ้งอุบัติเหตุ
นางจันทรา กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ้งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันนั้น แยกให้ประชาชนตรวจสอบดูก่อนว่ากรมธรรม์ประกันภัยของตัวเองหมดอายุหรือไม่ หากหมดให้รีบดำเนินการทำประกันภัยทันที เพราะหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจะแก้ไขในภายหลังไม่ได้ และถ้าเดินทางไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม แนะนำให้ทำประกันหมู่ไว้ เพื่อป้องกันไว้ดีกว่า
นอกจากนี้กรมการประกันภัย ยังได้จัดทำโครงการ E-claim เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ทำประกันภัยด้วย นั่นคือ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทางโรงพยาบาลสามารถประสานกับบริษัทประกันภัยได้ทันที โดยแจ้งรายชื่อผู้ป่วยจากนั้นบริษัทประกันภัยจะโอนเงินค่ารักษาพยาบาลเข้ามาในบัญชีให้ทันที่ เป็นการบริการใหม่ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ทำประกัน
"ขณะนี้ประชาชนนี้มีความตื่นตัวในการทำประกันภัยมากขึ้น เนื่องจากเห็นผลที่จะได้รับภายหลังเกิดอุบัติเหตุ แต่ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลที่ผ่านมานั้น ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ที่ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากการเมาสุราแล้วขับและไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วไม่ทราบว่าทางประกันภัยจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร และเป็นปัญหาอย่างมาก ฉะนั้น เราจึงพยายามที่จะเข้าไปเสริมกระทรวงมหาดไทย รณรงค์ให้แระชาชนสวมหมวกนิรภัย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง" นายจันทรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อสงสัยเรื่องการประกันภัย หรือไม่ได้รับความเป้นธรรมในเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยสามารถร้องเรียนไปได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรมการประกันภัยได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้บริการตลอดเวลา หรือติดต่อไปที่ บริษัทกลางประกันภัยฯ หมายเลข 1356 นอกจากนี้บริษัทประกันภัยต่างๆ ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตลอด 24 ช.ม. เนื่องจากในช่วงดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก