สถานการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงดิ่งเหวอย่างต่อเนื่อง รายย่อยอัดแคมเปญ "ซื้อ1แถม1" และ "ซื้อรถแถมไมโรเวฟ" ขณะที่เดือนล่าสุดพ.ย. ยอดลดลงกว่า 22% ยอดสะสม 5 เดือนแรกตั้งแต่ต้นปีลดลงไปกว่า 110,000 คันแล้ว ฮอนด้าและยามาฮ่า สองผู้นำตลาดยอดขาวลดลงเกือบ 4 หมื่นคัน
นายเกรียงไกร ลาภจตุรภิธ ผู้จัดการ บริษัท พานทองแท้ เจริญยนต์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ยามาฮ่า คางวาซากิ เจอาร์ดี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทได้ร่วมกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ในการจัดโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 14 ปี ด้วยการให้ลูกค้าสามารถซื้อรถจักรยานยนต์เจอาร์ดี 1 คันแถมฟรี 1 คัน โดยซื้อรถจักรยานยนต์เจอาร์ดีรุ่น จุ๊บจุ๊บ 1 คันราคา 39,990 บาทแถมรุ่นไต้ฝุ่นอาร์ มูลค่า 38,490 บาท ทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อน ฟรีเงินดาวน์ โดยโปรโมชั่นดังกล่าวได้จัดขึ้นที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์สาขาที่ร่วมรายการในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ทั้งหมด 250 ชุด หรือเท่ากับ 500 คัน จนถึงวันที่ 3 ก.ค. 2550 นี้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจและจองไปกว่า 100 ชุด หรือ 200 คันแล้ว
"ตอนนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ชะลอตัว และมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้นบริษัทจึงต้องมีการจัดทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า ซึ่งเร็วๆนี้บริษัทก็จะจัดโปรโมชั่นซื้อรถพร้อมของแถมที่มีมูลค่าอาจจะเป็น"ซื้อรถแถมไมโครเวฟ" หรือโปรโมชั่นที่ให้มากกว่าคู่แข่งเพื่อกระตุ้นยอดขาย"
อย่างไรก็ตามสำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2550 นี้พบว่ามียอดขายลดลง 15% หรือประมาณ 119,181 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดือนกันของปีที่ผ่านมา โดยผู้นำตลาดอย่างฮอนด้าและยามาฮ่านั้นมียอดขายลดลงเกือบ 4 หมื่นคันเลยทีเดียว ส่วนรายย่อยอย่างไทเกอร์ เจอาร์ดี คาวาซากิ และแพล็ตตินัม ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหม่ล้วนแต่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
นายโทชิยูกิ อินูมะ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์โดยรวมในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีปริมาณ 147,679 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว มีอัตราการเติบโตลดลงถึง 22% ในขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสม 5 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณทั้งสิ้น 684,401 คัน อัตราการเติบโตลดลง 15% หรือประมาณ 119,181 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดือนกันของปีที่ผ่านมา อันเป็นผลสะท้อนถึงสภาวะของตลาดที่ยังคงถดถอยลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่อยู่ในสภาพชะลอตัว
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบยอดจดทะเบียนในช่วงเดือน พ.ค. กับเดือนก่อนหน้าคือ เม.ย. ของปีเดียวกันนี้แล้ว พบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 21% เป็นเพราะว่าในเดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงของฤดูการเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน
ในส่วนอัตราการเติบโตของตลาดในเดือน พ.ค. นั้น รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่ารถแบบเกียร์อัตโนมัติ หรือแบบ เอ.ที. ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยรถแบบครอบครัวมีปริมาณจดทะเบียน 74,042 คัน อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 25% ขณะที่รถแบบ เอ.ที. มีปริมาณ 67,380 คัน อัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 18% ทั้งนี้เป็นเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาเลือกใช้รถแบบครอบครัว ซึ่งมีอัตราการประหยัดน้ำมันมากกว่ารถประเภทอื่นๆ
สำหรับในส่วนของฮอนด้าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 480,511 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 70% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว นับว่ามีอัตราการเติบโตลดลงน้อยที่สุดคือ 8% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการวางผลิตภัณฑ์รถรุ่นใหม่ๆ ที่ผ่านมาในปีนี้ ทั้งในรุ่นคลิกเพลย์ เมื่อช่วงไตรมาสแรกของปี และรุ่นเวฟ 125 เอ็กซ์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับปริมาณยอดจดทะเบียนของฮอนด้าเฉพาะเดือน พ.ค. มีจำนวน 105,816 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 72% นอกจากนี้ในระหว่างช่วงเดือน พ.ค. นั้น ทางฮอนด้าได้จัดให้มี "กิจกรรมฮอนด้าชักใยให้โชค" ซึ่งร่วมกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สไปเดอร์แมน 3 และล่าสุดนี้ได้เพิ่มรถประเภทครอบครัวอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งเป็นรถในตระกูลเวฟ เอ็กซ์ ซีรี่ย์ คือ รุ่นเวฟ 100 เอ็กซ์ อันเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่งจะเริ่มใช้รถจักรยานยนต์ รวมถึงได้มีการปรับเปลี่ยนลวดลายกราฟฟิคใหม่ของรถรุ่นฮอนด้า โนวา โซนิก โดยลวดลายกราฟฟิคใหม่