ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฮอนด้าและยามาฮ่า สองผู้ผลิตรายใหญ่ในเวียดนามได้ทยอยกันเปิดสายการผลิตรถจักรยานยนต์ โดยแต่ละบริษัทตั้งเป้าหมายประกอบ 1.5 ล้านคันต่อปี
บริษัทฮอนด้าเวียดนาม ประกาศในวันที่ 18 ก.ค.แผนการสร้างโรงงานประกอบแห่งที่ 2 ในพื้นที่ 28 เฮกตาร์ (175 ไร่) โดยใช้งบลงทุน 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โรงงานแห่งใหม่จะตั้งอยู่ติดกับโรงงานแรกในบริเวณจังหวัดหวิงฟุก (Vinh Phuc) คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในครึ่งหลังของปีหน้า
ฮอนด้ากล่าวว่าโรงงานแห่งที่ 2 จะเน้นการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กรุ่น แอร์ เบลด คลิก และ ฟิวเจอร์ นีโอ (Air Blade, Click, Future Neo) จำนวน 500,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้ฮอนด้าผลิตรถมอเตอร์ไซด์ 1.5 ล้านคันต่อปี คิดเป็น 50% ของตลาดเวียดนาม
ก่อนหน้านั้นในวันที่ 29 มิ.ย. ยามาฮ่าเวียดนามก็ได้เปิดตัวโรงงานแห่งใหม่อย่างเงียบๆ ในพื้นที่ 15 เฮกตาร์ ในเขตอุตสาหกรรมโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย ด้วยเงินลงทุน 43 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะสามารถผลิตได้ 1 ล้านคันต่อปี ทำให้โรงงานทั้งสองแห่งมียอดผลิตรวมกัน 1.5 ล้านคัน ต่อปี
ดังนั้นยอดการผลิตของยามาฮ่าจึงไม่น้อยหน้าฮอนด้าแต่อย่างใด ส่งผลให้การแข่งขันของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองขับเคี่ยวกันหนักหน่วงยิ่งขึ้น สร้างความลำบากให้แก่ผู้ผลิตภายในท้องถิ่นรายอื่นๆ
ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้งสองต่างกล่าวว่า การตัดสินใจขยายโรงงานแสดงให้เห็นว่าเวียดนามจะเป็นฐานการตลาดที่มีศักยภาพ
นาย โคจิ โอนิชิ (Koji Onishi) ผู้อำนวยการใหญ่ของฮอนด้าเวียดนามกล่าวว่า ถึงแม้สินค้าหลักจะเป็นรถจักรยานยนต์ประเภทสกู๊ตเตอร์ (Scooter) แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการประกอบรุ่นอื่นๆ เช่น SCR หรือ SH ในเวียดนาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดเป็นหลัก
ฮอนด้าประสบความสำเร็จค่อนข้างมากแม้ว่าเพิ่งจะเริ่มประกอบสกู๊ตเตอร์ได้ไม่นาน โดยในช่วง 9 เดือนหลังจากวางจำหน่ายฮอนด้า "คลิก" (Click) ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของยามาฮ่า "มีโอ" (Mio) ฮอนด้าก็มียอดจำหน่ายถึง 47,000 คัน
สำหรับฮอนด้าแอร์กับเบลด ซึ่งออกมาแข่งกับยามาฮ่านูโว มียอดจำหน่าย 19,500 คัน ภายใน 3 เดือนแรกหลังออกวางตลาด
ส่วนนายดิ่งกวางต๋วน (Dinh Quang Tuan) ผุ้อำนวยการฝ่ายการตลาดของยามาฮ่า เวียดนาม กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่จะเน้นไปที่การผลิตรถสกู๊ตเตอร์และส่วนแบ่งตลาดของยามาฮ่าในเซ็กเมนต์นี้กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ประมาณกันว่า 20% ของสกู๊ตเตอร์ที่จำหน่ายในเวียดนามในต้นปี 2550 เป็นของยามาฮ่า ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 30% ในเดือน มิ.ย และ คาดว่าจะขึ้นไปถึง 40-50% ในช่วงสิ้นปี
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยามาฮ่ามียอดจำหน่าย 250,000 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มียอดจำหน่าย 170,000 คัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่าสกู๊ตเตอร์ได้เป็นทางเลือกใหม่ของผู้ขับขี่ชาวเวียดนาม ซึ่งจะช่วยสร้างผลกำไรจำนวนมากให้แก่ผู้ผลิต โดยคาดว่าในสิ้นปี 2551 รถจักรยานยนต์ประเภทนี้จะมียอดขาย คิดเป็น 25% ของยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียงร้อยละ 11
ประมาณกันว่าในแต่ละปีจะมีการจำหน่ายสกู๊ตเตอร์รุ่นต่างๆ จำนวน 10 รุ่น รวม 750,000 คัน เทียบกับยอดการจำหน่าย 3 ล้านคันต่อปี
นอกจากยามาฮ่าและฮอนด้าแล้ว ยังมีบริษัทอื่นอย่าง ซูซูกิ SYM และ Piaggio ที่ร่วมลงทุนในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กเช่นกัน
Piaggio นั้นถึงแม้จะลงทุนเพียง 15 ล้านดอลลาร์สำหรับโรงงานขนาด 3 เฮกตาร์ ก็ยังนับเป็นขู่แข่งที่น่ากลัว โดยมีรถเวสป้า รถที่มีรูปทรงคลาสสิคเป็นสินค้าหลัก ถือได้ว่า Piaggio เป็นผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์รายแรกในเวียดนาม