ค่ายมอเตอร์ไซค์ชี้ตลาดฟื้นหลังเลือกตั้งแน่ หลังยอดขายดิ่งเหวต่อเนื่อง คาดปีนี้ทำยอดรวมได้แค่ 1.65 ล้านคัน "ยามาฮ่า" ประกาศเลื่อนแผน "บิ๊กไบค์" ด้าน "ฮอนด้า" มั่นใจรถเอทีมาแรง กินแชร์ตลาดกว่า 45%
นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้น่าจะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน ลดลงจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 1.7 ล้านคัน สำหรับยามาฮ่านั้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 250,000 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 23%
ล่าสุดบริษัทส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติก ยามาฮ่า นิวฟีโน่ ออกสู่ตลาด โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 12,000 คันต่อเดือน แม้ว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะลดลง แต่บริษัทยังเชื่อว่าความต้องการของตลาดรถจักรยานยนต์ยังมีอยู่ โดยที่กำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าจริงๆ อาจจะมีการชะลอตัวไปบ้าง แต่เชื่อว่าภายหลังการเลือกตั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาอย่างแน่นอน
"เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้นำตลาดยังคงมีการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับ ยามาฮ่าเองพยายามรักษาส่วนแบ่งในตลาดของตัวเองไว้ให้ได้ เพราะเรามีสินค้าที่เข้ากับตลาดได้มากกว่า บวกกับการที่เราไม่ได้เสียฐานลูกค้าเดิมไป น่าจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในปีนี้"
และในช่วงนี้ถือเป็นเวลาของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เนื่องจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตต่างมีการกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยยามาฮ่าได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างแบรนด์และสร้างฐานลูกค้าไปพร้อมกัน
ทั้งนี้บริษัทและตัวแทนจำหน่ายได้มีนโยบายในการทำตลาดร่วมกันเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด เนื่องจากส่วนแบ่งในตลาดรถจักรยานยนต์มีขนาดที่เล็กลง ดังนั้นบริษัทจึงจำเป็นต้องเดินหน้ารุกตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนดำเนินธุรกิจของตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือ "บิ๊กไบค์" ขณะนี้บริษัทได้ชะลอแผนการดำเนินงานออกไปก่อน เนื่องจากต้องการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นเดือนตุลาคม
ทั้งนี้บริษัทจะเปิดโชว์รูมและศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขึ้นเป็นแห่งแรก โดยใช้งบฯลงทุน 15-20 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 40-50 คันในปีนี้ พร้อมเตรียมแผนขยายโชว์รูมไปยังหัวเมืองใหญ่อีก 4 แห่ง รวมถึงพิจารณาเพิ่มโชว์รูมตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยราคาจำหน่ายของรถบิ๊กไบค์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 5-6 แสนบาทขึ้นไป
ด้านนายเซ็นจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์เอทียังมีอย่างต่อเนื่อง แม้ผลกระทบจากเศรษฐกิจและราคาน้ำมันจะทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจและหันไปใช้รถแบบครอบครัวมากขึ้น แต่เชื่อว่าสัดส่วนของจักรยานยนต์เอทีในปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 45% ของตลาดรวม
ส่วนสถานการณ์ของตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จนถึงเดือนกันยายน พบว่ามียอดการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1.24 ล้านคัน ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยฮอนด้ามียอดการจดทะเบียน 873,000 คัน ลดลง 13% ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถรักษายอดจำหน่ายได้ตามเป้า 1.2 ล้านคัน จากตลาดรวมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.65 ล้านคัน
นอกจากนี้บริษัทยังได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์เอทีรุ่น "ไอคอน" ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในตลาด วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 41,000 บาท และตั้งเป้าหมายการขายที่ 25,000 คันต่อเดือน โดยคาดว่าจะสอดรับกับการเติบโตของตลาดรถเอที ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
"เราต้องพยายามพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่ม ซึ่งเราเชื่อว่าไอคอนจะเข้ามาช่วยผลักดันยอดจำหน่ายของบริษัทในช่วงที่เหลือ และคิดว่าหลังเลือกตั้งทุกอย่างน่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน"