ยามาฮ่า ประกาศเดินหน้าสานต่อความสำเร็จจากปีที่แล้วหลังจากมียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และยอดจำหน่ายอะไหล่สูงสุดในรอบ 10 ปี มั่นใจตลาดมอเตอร์ไซค์ปีนี้จะทะลุ 1.92 ล้านคัน คาดการณ์ส่วนแบ่งตลาดของค่ายที่ 27 เปอร์เซ็นต์ ชูความพร้อม 3 กลยุทธ์ ทั้งสนับสนุน ผู้จำหน่ายอย่างเต็มที่ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การขยายจำนวนโชว์รูมครอบคลุมพื้นที่หลัก และเพิ่มประสิทธิ์ภาพบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าทั่วประเทศ
มร.ฟูมิอะกิ นากาชิม่า ประธานกรรมการ บริหารบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร และจินตนา อุดมทรัพย์ ผจก.ใหญ่ด้านการค้า จัดแถลงข่าวนโยบายของบริษัทประจำปี 2011 ที่ห้องบอลรูม ซี ชั้น 1 โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพฯ ลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.พ. 54 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่งานยามาฮ่า เยส ดี เดย์ ดิ อันติเมต เอต์ดอร์ เฟสติวัล ณ ยามาฮ่า เลกไซต์ เมืองทองธานีในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
นายประพันธ์กล่าวว่า "ตลาดรวมของรถจักรยานยนต์ในปี 2010 ที่ผ่านมา มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% หรืออยู่ที่ 1.85 ล้านคัน โดยรถประกอบเอที หรือรถออโตเมติก มีสัดส่วนที่เติบโตขึ้นเกินกว่าครึ่งของยอดขายทั้งตลาด อยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจมีการเติบโต และดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของยามาฮ่าเอง นับได้ว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ส่งถึงดีลเลอร์ 505,000 คัน ส่วนยอดจำหน่ายถึงผู้ใข้ 486,000 คัน แต่ยอดจดทะเบียนกลับอยู่ที่ 479,000 คัน และยอดจำหน่ายอะไหล่ 1,404 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 26 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือได้ว่าเราได้รับความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของยามาฮ่าอย่างต่อเนื่องเพราะตัวเลขตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ส่วนแบ่งลดลง 2% จากปีที่แล้วมีอยู่ 28%
จากการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ โดยภาพรวมแล้ว บริษัทได้มีการคาดการตัวเลขของตลาดรวมในปี 2011 ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4% หรือ 1.92 ล้านคัน โดยบริษัทได้ตั้งเป้าการขายอยู่ที่ 520,000 คัน จำทำให้ยามาฮ่ามีอัตราการเติบโตถึง 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งการตลาด 27% ซึ่งแผนระยะกลางในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทคาดว่าน่าจะมีส่วนแบ่งที่ 30 เปอร์เซ็นต์"
ด้านคุณจินตนา กล่าวว่า "สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ บริษัทมีนโยบายหลัก 3 ข้อ ในการทำตลาด โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพของการดำเนินธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งของผู้จำหน่ายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ โดยบริษัทตั้งเป้าในปี 2011-2012 ยามาฮ่าจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดรวม 7 รุ่น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า จะเป็นรุ่นอะไรบ้าง โดยจะเน้นเรื่องของความแตกต่างด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ เพราะยามาฮ่ามีความโดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรถออโตเมติก ที่เราเป็น "เทรดเซตเตอร์" ตัวจริงสามารถประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะยามาฮ่า ฟีโน่ ที่ปัจจุบันก็ยังจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง โดยยามาฮ่าให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการศึกษาพฤติกรรม และเน้นเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เราจึงเน้นเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เราจริงได้มีการเตรียมผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ และผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นต่างกัน ทั้งด้านดีไซน์และคุณสมบัติของตัวรถ เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นพร้อมที่จะตอบสนองลูกค้าในทุกความต้องการ และเหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ โดยมองว่าในช่วงปี 2012 รถประเภทแฟชั่นและสปอร์ตตี้จะลดลงส่วนรถประเภทนิว แวลู หรือรถที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจจะมีมากขึ้น
ในส่วนของการพัฒนาความแข็งแกร่งของช่องทางการขายก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยยามาฮ่าได้เป็นผู้ริเริ่มในการปรับเลี่ยนภาพลักษณ์โชว์รูมของผู้จำหน่ายทั่วประเทศให้เป็นรูปแบบของยามาฮ่า สแควร์ที่ทันสมัย และมีบริการที่ครบวงจร อีกทั้งร่วมกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศขยายเครือข่ายการขายให้ครอบคลุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันยามาฮ่ามีให้บริการถึง 528 แห่งและบริษัทมีแผนงานที่จะขยายเพิ่มโชว์รูมยามาฮ่าอย่างรวดเร็วในพื้นที่เป้าหมายอีก 168 แห่ง ภายในปี 2012 รวมเป็น 696 แห่ง และจะปรับเปลี่ยนโชว์รูมภายในปี 2012 เช่นกัน หรือคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของโชว์รูมคู่แข่งรายใหญ่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของการขาย และเป็นการให้บริการที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้การพัฒนาบริการหลังการขายและกิจกรรมทางบริษัทก็ให้ความสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า เน้นการพัฒนา และให้การบริการหลังการขายด้านต่างๆ ร่วมกับผู้จำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ ในปีนี้เราดำเนินการปรับปรุงระบบงานในด้านการบริการด้านอะไหล่ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็ว และดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพนอกจากนั้นเราเน้นให้การสนับสนุนผู้จำหน่ายมากยิ่งขึ้นในการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้าทั่วประเทศ โดยสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นการขาย กิจกรมด้านกีฬา กิจกรรมด้านลูกค้าสัมพันธ์ CRM และกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆ"