ตลาดสองล้อสุดคึก หลังแนวโน้มตลาดยังดี คาดทั้งปีนี้ยอดขายเฉียด 2 ล้านคัน ค่ายเล็ก - ใหญ่ ระดมพลสวนหมัดเปิดเกมแข่งกันเต็มที่ ค่ายยามาฮ่าทุ่มกว่า 3 พันล้านหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและรายได้ปี 54 โต ด้านซูซูกิเตรียมเปิดตัวรถใหม่ วางเป้าหมาย 3 ปีเก็บแชร์ 15% ขณะที่ค่ายผู้นำบิ๊กไบค์หรู บีเอ็มดับเบิลยู ก็เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 6 สูบในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้
การแข่งขันในตลาดจักรยานยนต์ปีนี้ยังคงดุเดือดไม่แพ้ปีที่ผ่านมา เฉพาะตั้งแต่ต้นปีที่เจ้าตลาดอย่าง ฮอนด้า ที่ออกมาประกาศแผนงานระยะกลาง 3 ปีนับจากนี้ว่าจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวน 12 รุ่น ด้านค่ายซูซูกิ หลังจากปรับโครงสร้างการบริหารภายใน ก็เตรียมแผนงานรุกตลาดเช่นเดียวกัน โดยจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่อง ขณะที่ค่ายยามาฮ่า ก็ออกมาประกาศแนวรุกเช่นเดียวกัน ด้วยการเปิดแผน 2 ปีเปิดตัวรถใหม่ 7 รุ่น
ยามาฮ่า เปิด 7 รุ่นสร้างเซ็กเมนต์ใหม่
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่าทิศทางในปี 2554 คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังคงโตต่อเนื่อง โดยตัวเลขจีดีพีที่มีการประเมินจะอยู่ที่ 4.5% ขณะที่ปัจจัยบวกอื่นๆที่จะสนับสนุนคือ ราคาสินค้าทางการเกษตร,การส่งออกเติบโต,การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนจากภาคเอกชนเติบโต ,อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในภาวะที่เหมาะสม และอัตราดอกเบี้ยไม่สูงจนเกินไป อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบที่คาดว่าจะกระทบกับการเติบโตก็คือ ราคาน้ำมัน ,ค่าเงินบาท และปัจจัยด้านการเมือง
โดยยามาฮ่าคาดว่าตลาดจักรยานยนต์ในปีนี้จะเติบโต 4% หรือ 1.92 ล้านคัน และยามาฮ่าตั้งเป้าหมายจะทำยอดขายอยู่ที่ 520,000 คัน หรือเติบโต 9% ครองส่วนแบ่งตลาด 27% และคาดว่าภายใน 3 ปีจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาด 30%
กลยุทธ์หลักที่จะทำให้ยามาฮ่าก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือแผนงาน 2 ปีนับตั้งแต่2554 -2555 ประกอบไปด้วย 3 ข้อหลัก เริ่มตั้งแต่สร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวน 7 รุ่นในช่วง 2 ปีนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับวงการสองล้อ
"เราต้องการมีรถจักรยานยนต์ที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่พรีเมียม,สปอร์ต,แฟชั่น และเราจะเปิดรถรุ่นใหม่ที่เป็น นิว แวลู เอ็กไซท์ ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ซึ่งผลการตอบรับในรุ่นใหม่จะเป็นอย่างไรนั้น เราเชื่อว่าจะต้องมีคนที่ชื่นชอบ เหมือนเช่นที่เรากล้าที่จะเปิดฟีโน่ และรถรุ่นใหม่ๆที่จะเปิดตัวสู่ตลาดนับจากนี้จะเป็นหัวฉีดใหม่ตามเทคโนโลยีของยามาฮ่า "
กลยุทธ์ที่ 2 ของยามาฮ่าคือการพัฒนาความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย โดยปัจจุบันมีให้บริการ 528 แห่ง ภายในปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 168 แห่ง และภายในปี 2556 จะขยายเพิ่มเป็น 696 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนั้นแล้วจะปรับเปลี่ยนโชว์รูมป้ายแดงเดิมทั้งหมดให้เป็นรูปแบบ Yamaha Square ภายในปี 2556 ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของการขาย และเป็นการให้บริการที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาการบริการหลังการขายและกิจกรรม โดยจะมีการพัฒนาระบบ DMS ที่จะรวบรวมฐานข้อมูลของลูกค้าให้เข้ามาอยู่ส่วนกลาง ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่สามารถเข้ารับบริการหลังการขายที่ดีลเลอร์ไหนก็ได้ เพราะมีฐานข้อมูลที่สามารถเรียกดูได้และทำให้การบริการมีความรวดเร็วขึ้น ขณะที่การจัดกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้มีการใช้งบประมาณทางการตลาดกว่า 2,000 ล้านบาท หรือ 10% ของยอดขาย โดยจะเพิ่มการจัดกิจกรรมกับดีลเลอร์ให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาจุดขายและการขาย ซึ่งในส่วนนี้คิดเป็นกว่า 60% ส่วนกิจกรรมทางด้านซีอาร์เอ็ม หรือ ซีเอสอาร์อื่นๆก็ยังคงมีการให้ความสำคัญ คิดเป็นสัดส่วน 40%
นายประพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแผนงาน 2 ปีเปิด 7 รุ่น ทำให้ต้องมีการปรับปรุงและลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของโรงงาน คาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 1,000 - 1,200 ล้านบาท ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 650,000 - 700,000 คัน
ซูซูกิ ชูเป้า 3 ปี ขอกวาดแชร์ 15%
ค่ายซูซูกิเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยทำการเปิดตัวรถบิ๊กไบค์ 2 รุ่น ได้แก่ Suzuki GSX-R1000 และ Suzuki GSX1300R HAYABUSA และมีแผนงานที่จะเปิดรถในรุ่นตลาดทั่วไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกหนึ่งรุ่น
นายเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ไทย ซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้มีแผนงานที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ แบ่งออกเป็นโมเดลใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดตัวสู่ตลาด 1 รุ่น และมีรุ่นปรับโฉมอื่นๆอีกหลากหลายรุ่น คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ประมาณ 100,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 70,000 คัน หรือครองส่วนแบ่งการตลาด 5 - 6% ขณะที่เป้าหมายยอดขายภายใน 3 ปีของซูซูกิตั้งแต่ปี 2554 - 2556 คือการมีส่วนแบ่งการตลาดเป็น 15%
ปัจจุบันซูซูกิ มีจำนวนเครือข่ายดีลเลอร์ทั่วประเทศจำนวนกว่า 250 แห่ง แบ่งออกเป็นของไทยซูซูกิ จำนวน 200 แห่ง และบ้านซูซูกิ ที่มีเครือข่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 50 แห่ง โดยแผนงานด้านเครือข่ายจะมีการสร้างความเข้มแข็งผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดและยกระดับมาตรฐานการให้บริการหลังการขายของดีลเลอร์ให้มีความแข็งแกร่ง
บีเอ็มฯ ทัวร์ริ่ง 6 สูบคันแรก
ค่ายบีเอ็มดับเบิลยูเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่มีรถสองล้อไว้ทำตลาดผ่านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดขาย เติบโต 73% ด้วยยอดขาย 245 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ขายได้ 142 คัน และในปีนี้ก็คาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่อง และปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เป้าหมายของบีเอ็มดับเบิลยูให้ถึงฝันได้นั้น คือการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆเริ่มตั้งแต่ BMW K 1600 GTL ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์แบบทัวร์ริ่งเครื่องยนต์ 6 สูบคันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายนนี้ ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี
นอกเหนือจากรถรุ่นใหม่ที่เป็นไฮไลต์ในงานแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังยกขบวนรถรุ่นอื่นๆมาร่วมโชว์ในงานไม่ว่าจะเป็น BMW S 1000 RR ซูเปอร์ไบค์ที่มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที, BMW G 650 GS มอเตอร์ไซค์ Euduro สูบเดียว และ BMW F 800 R "The Naked Bike" ซึ่งเป็นรถคู่ใจของแชมป์โลกการขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผน 4 สมัย คริส ไฟเฟอร์ และรุ่นยอดนิยมอีก 2 รุ่นคือ BMW S 1000 RR และ BMW K 1300 R
ม.ล. กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการทั่วไป บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า BMW K 1600 GTL เป็นสุดยอดมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่ง 'Gran Turismo' ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบซึ่งในเมืองไทยได้เลือกที่จะนำเสนอรุ่น GTL โดย 'L' เป็นรหัสที่บ่งบอกถึงการตกแต่งแนว 'Luxury'และได้รับการออกแบบตำแหน่งท่านั่งพิเศษกว่า เพื่อที่จะให้ความสะดวกสบายในการเดินทางไกลโดยเฉพาะ