ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศ ซุปเปอร์แบรนด์ 2011 เป็นเวลา 6 ปีต่อเนื่อง รางวัลที่ได้รับการการันตีด้วยผลสำรวจ และวิจัยผ่านกลุ่มตัวอย่างที่ประกอบไปด้วยผู้บริโภค นักการตลาด นักโฆษณา จำนวน 5,967 คน เพื่อนำเสนอแบรนด์ที่เป็นที่สุดแห่งปี
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง สำหรับรางวัลของการทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านสินค้า และบริการ และถือเป็นอีกครั้ง สำหรับความภูมิใจที่ยามาฮ่าเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล “ซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี 2011” โดยมีบริษัทที่เข้าร่วมทั้งหมดกว่า 1,200 แบรนด์ใน 35 กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการอิสระของซุปเปอร์แบรนด์ และกลุ่มตัวอย่างได้เลือกยามาฮ่าเป็น “ซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี 2011” เนื่องจากความโดดเด่นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพของแบรนด์ที่ยามาฮ่าเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบรับความต้องการทุกการใช้งานของผู้บริโภค และเป็นผู้นำด้านการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ลงตัวสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงผลงานการทำแผนการตลาดที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยามาฮ่ายังสร้างเอกลักษณ์ความโดดเด่น ด้วยความเป็นแบรนด์ผู้นำในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากยามาฮ่าจะพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์แล้ว ยามาฮ่ายังตระหนักถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นรางวัลซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี 2011 ที่ได้รับนี้ ถือว่าเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ จากความพยายามในการสร้างสรรค์แบรนด์ให้มีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง และมีความชัดเจนในฐานะผู้นำที่มีความแตกต่าง
“เรามีความภูมิใจเป็นอย่างมากกับรางวัล “ซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี” อันทรงเกียรตินี้ ซึ่ง ยามาฮ่าพร้อมมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา โดยที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และสร้างความล้ำหน้าของเทคโนโลยีด้านต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ เราพร้อมที่จะประกาศว่า ยามาฮ่าจะรักษามาตรฐานแบรนด์คุณภาพเพื่อครองใจผู้บริโภคต่อไป” นายประพันธ์ กล่าว
สำหรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีความโดดเด่นในการทำการตลาด และสร้างแบรนด์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสร้างความต่างในผลิตภัณฑ์ เช่น การเป็นผู้บุกเบิกรถจักรยานยนต์ออโตเมติก จนปัจจุบันรถจักรยานยนต์ออโตเมติกได้รับการยอมรับ และมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 51 เปอร์เซ็นต์
ล่าสุด ยามาฮ่าตอบรับความต้องการแนวใหม่ผ่านการพัฒนารถจักรยานยนต์เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะส่งผลิตภัณฑ์ รุ่น “ฟีโอเร่ หัวฉีดใหม่” ขนาดเครื่องยนต์ 115 cc ลงตลาด ซึ่งถือว่าเป็นอีกครั้งที่บริษัทสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับวงการรถจักรยานยนต์ในตลาดประเทศไทยเป็นรายแรกอีกครั้ง ทางด้านเทคโนโลยี ยามาฮ่าได้สร้างคุณค่าของผลิตภัณภัณฑ์ผ่านเทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะ YMJET ทำให้รถประหยัดน้ำมันที่สุดถึง 51 กิโลเมตร/ลิตร* และสุดยอดเทคโนโลยีกระบอกสูบไดอะซิล ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานอีกด้วย
ปัจจุบันยามาฮ่าเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดีเยี่ยมต่อทัศนคติของกลุ่มผู้ใช้ และมียอด ขายดีเกินความคาดหมาย โดยในปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะสามารถสร้างสถิติใหม่ สูงสุดในรอบ 10 ปี ทั้งในด้านยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 505,000 คัน ยอดจำหน่ายถึงผู้ใช้ 486,000 คัน ยอดจดทะเบียน 479,000 คัน และยอดจำหน่ายอะไหล่ 1,404 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาด 26 % และในปี 2554 นี้ยามาฮ่าคาดว่าจะทำยอดขายรวมได้ 520,000 คัน จะทำให้ยามาฮ่ามีอัตราการเติบโตถึง 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งการตลาด 27%
*ผ่านการทดสอบ Mode ECE R40 ตามมาตรฐาน TISI (สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)
ข้อมูลเพิ่มเติมรางวัลซุปเปอร์แบรนด์ :
สำหรับซุปเปอร์แบรนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นองค์กรอิสระที่ได้รับความเชื่อถือสำหรับมาตรฐานการประเมินคุณค่าแบรนด์สินค้าในสายตาผู้บริโภค และทำงานด้านการประเมินความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือก 3 หลักเกณฑ์ คือ
1. BRAND QUALITY (คุณภาพของแบรนด์)
2. BRAND AFFINITY (ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค)
3. BRAND PERSONALITY (เอกลักษณ์ของแบรนด์)
แบรนด์ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดโดยคณะกรรมการซุปเปอร์แบรนด์ ภายใต้เกณฑ์การพิจารณาจะได้รับรางวัล Superbrands Status หลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปัจจุบัน Superbrands ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นองค์กรอิสระเพียงหน่วยงานเดียวในโลก ที่เป็นผู้ตัดสินด้านความเป็นเลิศด้านการสร้างแบรนด์
ซุปเปอร์แบรนด์ 2011 สามารถการันตีให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดแบรนด์ส่งผลให้ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสายต่างๆ โดยรางวัลในปีนี้มาจากผลสำรวจ และวิจัยผ่านกลุ่มตัวอย่างซึ่งได้จากการวิจัยผ่านผู้บริโภค 3,489 คน ผู้อำนวยการ ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดและบริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์รวม 2,478 คน โดยมีคณะกรรมการอิสระของซุปเปอร์แบรนด์ (Superbrands Council) ลงคะแนนเพื่อทำการโหวต คัดเลือกแบรนด์จากทั้งหมด 569 แบรนด์ที่มีศักยภาพที่สุดจากการสำรวจการตลาดทั้งหมดกว่า 1,200 กว่าแบรนด์ภายใต้ 35 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งแบรนด์ภายในประเทศและแบรนด์จากต่างประเทศทั่วโลก