ตลาดบิ๊กไบก์ไปได้สวย ปี 2553 โต 20% ทะลุ 20,000 คัน "คาวาซากิ" มั่นใจอนาคตยังสดใส เหตุคู่แข่งเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โวปี 2553 โกยยอดขายรวม 30,000 คัน ปีนี้ตั้งเป้าทะลุ 40,000 คัน
นายเรวัตร กฤตภาสสกุล ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการตลาด บริษัท คาวาซากิมอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ (ไทยแลนด์)จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบก์ ที่มีขนาด 250 ซีซีขึ้นไป ในปีที่ผ่านมาพบว่ามีการเติบโตขึ้นถึง 20% เป็น 20,000 คัน และปีนี้คาดว่าตลาดน่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากมีผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลากค่ายเข้ามาทำตลาด ทำให้กลุ่มลูกค้ากว้างมากขึ้นและอะไหล่หาได้ง่าย ทำให้ตลาดมีความคึกคัก แต่การแข่งขันก็ยังไม่ได้รุนแรงมากนัก เพราะสินค้าของผู้ผลิตแต่ละค่ายก็จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่แตกต่างกัน
สำหรับบริษัทคาดว่าปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่จำนวน 40,000 คัน แบ่งเป็นยอดขายหลัก สำหรับรถรุ่นเคเอสอาร์มากกว่า 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรถรุ่นอื่น ๆ จากยอดขายรวมปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 30,000 คันสำหรับปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะทำยอดขายไว้ได้ตามที่ตั้งเป้า เนื่องจากมีสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถรุ่นเคเอสอาร์ที่เป็นยอดขายหลักนั้นก็มีราคาจำหน่ายไม่สูงมากนัก ทำให้ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
รวมถึงการพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 62,000-485,000 บาท ทั้งรถจักรยานยนต์ประเภทซูเปอร์สปอร์ต ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 900-1,000 ซีซี, ประเภทสปอร์ต เครื่องยนต์ขนาด 600 ซีซี, ประเภทดูโอ เพอร์โพส, ประเภทเอ็นดูโร่ ขนาดต่ำกว่า 250 ซีซี รวมถึง รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่มซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแซดเอ็กซ์ 1000 ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ด้วย ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมเพื่อเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าโดยตรง ทั้งการจัดทริปท่องเที่ยว รวมถึงจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มคลับรถจักรยานยนต์ต่าง ๆ ด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 10 แห่งทั่วประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยว เช่นนครราชสีมา, เชียงใหม่, พัทยา,สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต ส่วนกำลังการผลิตนั้น ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นที่ 200,000 คันต่อปี แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกกว่า 90% และจำหน่ายในประเทศอีกกว่า 10%
"เราเชื่อว่าแบรนด์เราอยู่ในใจของลูกค้าที่ชื่นชอบรถบิ๊กไบก์อยู่แล้ว เพราะเราจับตลาดรถแนวสปอร์ตอย่างชัดเจนเป็นแบรนด์แรก ๆ ในประเทศ ซึ่งสิ่งที่คาวาซากิมีความต่างคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีฐานการผลิตในประเทศเพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทุกโมเดลจะต้องมาผลิตที่นี่ทำให้เรามีรถรุ่นใหม่ ๆ ป้อนตลาดในประเทศทุกปี รวมถึงโชว์รูมที่มี 10 แห่งทั่วประเทศจะจำหน่ายรถในราคาเดียวกันที่เป็นมาตรฐาน" นายเรวัตรกล่าว