ตลาดสองล้อไตรมาส 2 เริ่มคึกคัก ค่ายยามาฮ่าเตรียมอัดกลยุทธ์สื่อสารการตลาดในรุ่น ฟิโอเร่ หวังให้ลูกค้าทราบคุณสมบัติตัวรถ และเดินหน้าจัดกิจกรรมเข้าหากลุ่มเป้าหมายตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัย พร้อมรุกซีอาร์เอ็ม กับ FCLUB กิจกรรมมัดใจลูกค้า ฟีโน่ และฟิโอเร่ มั่นใจสิ้นปีกวาดยอดได้ตามเป้า
นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ยามาฮ่าทำยอดจดทะเบียนสะสมรวม 120,045 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 23 % โดยรุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดียังคงเป็น ฟีโน่ และ มีโอ 125 ที่เพิ่งทำการเปิดตัวลายใหม่
"ตัวเลขยอดขายในไตรมาสแรกนั้น เติบโตเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของส่วนแบ่งทางการตลาดลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะเราเชื่อมั่นว่าพอถึงสิ้นปีตัวเลขที่ได้ตั้งเป้าไว้ 520,000 คัน หรือเติบโต 9% จากปีที่ผ่านมา และครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27 % จะกลับคืนมาอย่างที่คาดไว้ "
นางสาวจินตนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 จะเริ่มรุกตลาดของฟิโอเร่อย่างจริงจัง หลังจากทำการเปิดตัวครั้งแรกในช่วงปลายปี 2553 โดยในเริ่มแรกกลยุทธ์ทางการตลาดจะถูกสื่อสารผ่านพรีเซนเตอร์ 2NE1 นักร้องเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลี ที่จะเน้นการสร้างเทรนด์และสร้างการรับรู้ในตัวสินค้า แต่หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของฟิโอเร่ ที่จะเริ่มมีการสื่อสารให้เห็นถึงคุณสมบัติหรือจุดเด่นของฟิโอเร่ที่ลูกค้าจะได้รับ
โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ จะเริ่มแพร่ภาพในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ และยังคงใช้พรีเซนเตอร์จากเกาหลี 2NE1 มาเป็นผู้สื่อสารให้เห็นจุดเด่นหลัก 3 ประการได้แก่ 1.เปิดเบาะ และฝาน้ำมันสะดวกโดยไม่ต้องดึงกุญแจออกแค่บิดกุญแจ เบาะหรือฝาน้ำมันก็เปิดออกได้โดยง่าย ฝาถังน้ำมันไม่ต้องเปิดจากตัวรถ 2.ที่เก็บของใต้เบาะที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับฟีโน่ หรือกับคู่แข่ง และ 3. ยางของฟิโอเร่ไม่มียางใน ดังนั้นเมื่อโดนตะปูยังสามารถที่จะวิ่งได้โดยไม่แฟบและแบนทันที
นอกจากนี้ยังจะมีการเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง โดยจะเข้าไปจัดกิจกรรมในสถานศึกษาต่างๆ อาทิ โรงเรียน, มหาวิทยาลัย รวมไปถึงการจัดกิจกรรมในห้างสรรพสินค้าเพื่อเป็นการอธิบายให้ลูกค้าได้เห็นถึงคุณสมบัติของฟิโอเร่ และจับมือกับดีลเลอร์ตามหัวเมืองสำคัญในการประชาสัมพันธ์ เพื่อขยายการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย
"เราคาดหวังว่าฟิโอเร่จะทำยอดขายได้ดีกว่านี้ โดยเริ่มแรกเราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5,000 - 6,000 คันต่อเดือน แต่ยอดสะสมนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้มีประมาณ 10,290 คัน ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เรากลับมาทบทวนว่ามีการทำตลาดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
นางสาวจินตนา กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ทางการตลาดต่อมาที่จะทำในไตรมาสที่ 2 คือ F -CLUB กล่าวคือ การรวบรวมสมาชิกของผู้ใช้รถฟีโน่ และ ฟิโอเร่ เพื่อจะได้เข้าร่วมกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่จะสร้างขึ้น โดยจะเริ่มจัดขึ้นในเดือน พ.ค. นี้ไปจนถึง มิ.ย. และจะจัดในกรุงเทพฯก่อนที่จะขยายไปยังหัวเมืองใหญ่
"คาแรกเตอร์ของผู้ใช้รถฟีโน่ และ ฟิโอเร่ ค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกัน ทำให้เราคิดกิจกรรมการตลาดนี้ขึ้นมา ซึ่งรูปแบบจริงๆถือเป็นการขอบคุณลูกค้าและสร้างสังคมของผู้ใช้รถทั้ง 2 รุ่นให้มีความเหนียวแน่น แต่รูปแบบกิจกรรมนั้นจะต้องแปลกแหวกแนว และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเรา"
ขณะที่กลยุทธ์ทางการตลาดของรถในรุ่นอื่นๆอาทิ มีโอ นั้น จะเน้นหนักไปที่การสอนการขับขี่ ,กฎกติกาการขับขี่ หรือ การพาไปชมการแข่งขัน มอเตอร์จีพี โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ของมีโอ จะเน้นไปที่สมรรถนะเป็นหลัก ส่วนในรุ่น สปาร์ค จะใช้การลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆโดยดีลเลอร์จะเข้าหากลุ่มลูกค้าและชูจุดขายด้านคุณสมบัติการใช้งานของรถรุ่นนี้แก่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่นั้นๆ
นางสาวจินตนา กล่าวว่า นอกจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะเน้นหนักในช่วงไตรมาสที่ 2 ในส่วนของแผนงานด้านเครือข่ายก็ได้เดินหน้าต่อเนื่อง เพราะตามเป้าหมายที่วางไว้คือการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ดังนั้นในแง่ของเครือข่ายก็จะต้องเปิดออกมาเพื่อรองรับกับการเติบโตดังกล่าวด้วย
ขณะที่ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงไตรมาสที่ 2 นั้น คาดว่าผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคใต้จะมีผลกระทบ แต่ไม่มาก เพราะจากการพูดคุยกับดีลเลอร์ที่ประสบภัย มียอดขายลดลงประมาณ 20 % ซึ่งคาดว่าหลังจากที่น้ำลดและกลับมาฟื้นฟู จะเร่งทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง