ยามาฮ่าโยกงบตลาด 20% ไปลงการขาย ลุยกิจกรรมท้องถิ่น ชิงแชร์สิ้นปีเป็น 26% หลัง 4 เดือนหดเหลือ 23%
น.ส.จินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีจะโยกงบประมาณในส่วนของการตลาดประมาณ 20% ไปใช้ในด้านการขายมากขึ้น โดยจะเน้นที่การจัดแคมเปญและกิจกรรมเพื่อเข้าถึงลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น
รวมไปถึงการจัดทีมกิจกรรมพิเศษที่เรียกว่ายามาฮ่า คอมมานโดเพื่อเน้นการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมเน้นไปที่รถจักรยานยนต์รุ่นฟิโอเร่ ที่จะจัดโรดโชว์เข้าตามโรงเรียนมัธยมหญิงมากกว่า 20 จังหวัด เพื่อเพิ่มให้ได้ตามเป้าหมายการจำหน่ายเป็น 6,000-7,000 คันต่อเดือน จากปัจจุบันที่ขายอยู่ 3,500 คันเท่านั้น
ทั้งนี้ การปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณดังกล่าว จะทำให้บริษัทสามารถรักษาเป้าหมายส่วนแบ่งตลาด 26% หรือมียอดจำหน่ายกว่า5.2 แสนคัน เติบโตประมาณ 10%เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากที่ 4 เดือนแรกของปี มีส่วนแบ่งในตลาดลดลงเหลือ 23% โดยมียอดจดทะเบียน 154,589 คัน
สำหรับตลาดรวมรถจักรยานยนต์ปีนี้ ในเบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะปิดตลาดที่ 1.9 ล้านคัน เติบโต4% จากตลาดรวม 1.85 ล้านคันในปีที่ผ่านมา แต่ในช่วง 4 เดือนแรกตลาดเติบโตไปแล้วกว่า 12% โดยมีตัวเลขการจดทะเบียน 671,205 คัน และในช่วงครึ่งแรกของเดือนพ.ค.ก็เติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 16%
"ตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงแรกของปีเติบโตกว่าที่มีการคาดการณ์ ในขณะที่ยามาฮ่าเองก็มีการชะลอในเรื่องการผลิตไป ในช่วงของการไมเนอร์เชนจ์ฟีโน่เมื่อต้นปี ทำให้มีการส่งมอบรถให้กับลูกค้าล่าช้าไปบ้าง ทำให้เราต้องเร่งเครื่องในช่วงที่เหลือของปี เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของเรา" น.ส.จินตนา กล่าว
นอกจากนี้ ได้เจรจากับตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ในการขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม 70-90 แห่งในปีนี้เน้นไปที่พื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ที่ยังมีจุดขายน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยถือเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตลาดในอนาคต จากปัจจุบันที่มีจุดขายราว 500 แห่ง เป็นรูปแบบยามาฮ่า สแควร์ 400 แห่ง ที่เหลือจะปรับโฉมให้เสร็จภายใน 1-2 ปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจากการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา มาเน้นการจัดกิจกรรมขนาดเล็กเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แท้จริงมากขึ้น โดยจะเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ เริ่มจากกิจกรรมเอฟคลับ ที่ใช้งบประมาณ 25 ล้านบาทดึงดาราชั้นนำกว่า 30 คนจัดกิจกรรมกับลูกค้าใน 5 จังหวัดใหญ่ได้แก่ กทม. เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยาและขอนแก่น