ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > ฮอนด้า-ยามาฮ่าระเบิดศึกชิงใจลูกค้าอีกคำรบ
ฮอนด้า-ยามาฮ่าระเบิดศึกชิงใจลูกค้าอีกคำรบ
ที่มา - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย.54

แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์บ้านเรา ที่จะเลือกนำกลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้งและสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งมาเป็นกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อน แต่ล่าสุดการเดินเกมของค่ายเอ.พี.ฮอนด้าด้วยการจับมือกับสโมรสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของเกาะอังกฤษอย่าง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"โดยมีการเซ็นสัญญาว่า เอ.พี.ฮอนด้าจะเป็น official partner ให้กับทีมแมนฯ ยูฯ ก็เป็นอีกหนึ่ง "อีเวนต์" ที่หลายค่ายจับตามอง

งานนี้ "จิอากิ คาโด"ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้าเปิดเผยว่า เอ.พี.ฮอนด้าและแมนเชสเตอร์ฯเป็นพันธมิตรกันอย่างเป็นทางการ (official partner) โดยให้เหตุผลว่า ทีมแมนฯ ยูฯ ถือว่ามีแฟนคลับที่เป็นคนไทยจำนวนมาก โดยเอ.พี.ฮอนด้าจะนำความร่วมมือครั้งนี้มาใช้ในการสร้างสีสันเดินเกมทางการตลาดในรูปแบบใด คงต้องติดตามกันอีกที

แต่ที่แน่ ๆ สโลแกนของความร่วมมือครั้งนี้ ที่ "เอ.พี.ฮอนด้า" เลือกนำมาใช้เพื่อการสื่อสาร คือ "ใหญ่ ใหม่ มัน" ว่ากันว่าจะเป็นการสร้างกระแสความสุข และความสนุกสนานให้กับบรรดาแฟนลูกหนังบ้านเรา รวมถึงบรรดาลูกค้าของฮอนด้าทั่วประเทศในเร็ว ๆ นี้ ฮอนด้าทั่วประเทศในเร็ว ๆ นี้

ส่วนสัญญาของการเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะมีอายุราว 3 ปี และไม่เพียงแค่สโมสรผีแดงแมนฯ ยูฯ เท่านั้น แต่งานนี้เอ.พี.ฮอนด้าก็จะเดินเข้าสู่ถิ่น "Anfield"เพื่อที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกับทีม "หงส์แดง"ลิเวอร์พูลอีกด้วย คงต้องติดตามกันว่า เอ.พี.ฮอนด้าจะเก็บเกี่ยวความคุ้มค่าเอาไว้ได้มากน้อยเพียงใด ?

แต่อย่างน้อย เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ตอกย้ำยุทธศาสตร์แนวคิดใหม่ ที่ต้องการเจาะไลฟ์สไตล์ความสนุกของกลุ่มลูกค้า ด้วยการใช้ "แบรนด์ เมสเซจ"แนวคิดที่ว่า "ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหา หรือ Discover Your Fun"จะเป็นความสนุกแรกของปีที่สุดยิ่งใหญ่ และถือเป็นครั้งแรกของโลกกับ 2 สโมสรฟุตบอลระดับตำนาน

ก่อนหน้านี้ เอ.พี.ฮอนด้าเคยผ่านการทำกลยุทธ์ทำนองนี้มาแล้ว โดยจับมือร่วมกับพันธมิตรสำคัญ อาทิสิงห์ คอร์เปอเรชั่น, เดอะพิซซ่าคอมปานี, ปตท., ดีไอดี, การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยกับทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG)ทีมแข่งระดับชั้นนำจากประเทศสเปน เพื่อสนับสนุน "ฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์"เข้าแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

อันนั้นเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัท ในการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตของเมืองไทยให้มีความก้าวหน้า ทัดเทียมกับนานาชาติ บนเวทีโลก ปีนี้ฮอนด้าก็ยังทุ่มงบฯอีกราว 2 ล้านยูโร หรือมีมูลค่ากว่า90 ล้านบาท เพื่อกลยุทธ์ "สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" ระดับโลก ด้วยการส่ง "ฟีม"เข้าแข่งขันรายการ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์2011" ฤดูกาลนี้อย่างเต็มที่อีกด้วย

ขณะที่กลยุทธ์ด้านมิวสิกมาร์เก็ตติ้งเอ.พี.ฮอนด้าก็ไม่เบาแรง เปิดเวทีเอาใจเด็กแนวกับคอนเสิร์ต "New honda Scoopy i teen fest 2001" พร้อมขนศิลปินมาร่วมปล่อยความมันกันคึกคักนำทีมโดย "แบล็ค วนิลา" พร้อมด้วยซีควินท์, แอมไฟน์, เฟ-ฟาง-แก้ว,ซี-มัฑณาวี คีแนน, รุกกี้ บีบี รวมถึงมหกรรมดนตรี 30 ปี คาราบาว และสครับ ซิงค์ อีกด้วย

ขณะที่ฝั่งยามาฮ่า ที่ว่ากันว่าเป็น"ตัวแม่" ทั้ง "สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" และ"มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง" ในการเจาะตลาดตามไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของลูกค้า

"จินตนา อุดมทรัพย์" ในฐานะผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยมาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวกับ "ประชามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงกลยุทธ์และรูปแบบการทำตลาดของยามาฮ่าในปีนี้ว่า ยามาฮ่าจะเน้นการทำกิจกรรมการตลาด โดยเน้นไปที่การเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น และ
เน้นการซัพพอร์ตดีลเลอร์ ในแต่ละพื้นที่

ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดนั้นปีนี้ยามาฮ่ามีแผนทำกิจกรรมใหญ่ฉลองยอดขายยามาฮ่า ฟีโน่ ครบ 1 ล้านคันซึ่งขออุบเอาไว้ก่อน แต่ยามาฮ่าจะขอเรียกน้ำย่อยกับกิจกรรมตลาดแบบไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งด้วย กิจกรรมการตลาดเชิงรุกที่แตกต่าง ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ และมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า

เมื่อถามถึงการนำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่เอาใจลูกค้านั้น"จินตนา" บอกเสียงดังฟังชัดเจนว่า "ปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าทำมาเยอะ โดยเฉพาะการเป็น ผู้สนับสนุนหลักการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2010 แถมยังเป็นผู้สนับสนุนหลักสโมสรทีม"เมืองทองหนองจอกยูไนเต็ด" ด้วยงบประมาณมูลค่า 100 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี หลายคนคงได้เห็นการเนรมิตสนามของสโมสรให้เป็น "ยามาฮ่า สเตเดี้ยม"

ส่วนปีนี้ การประเดิมจัดกิจกรรมใหญ่ท้าทาย เร้าใจสุดขีด ในงาน "ยามาฮ่าเยส ดี เดย์ ดิ อัลติเมท เอาต์ดอร์เฟสติวัล" (Yamaha Yes D!Day the Ultimate Outdoor Festival) มหกรรมดนตรีและกีฬาสุดยิ่งใหญ่ และเป็นการสร้างสถิติเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในการนำยามาฮ่าคลับ ขี่รถจักรยานยนต์เข้าชมคอนเสิร์ตกว่า 3,000 คัน ภายใต้บรรยากาศของคอนเสิร์ตสุดไฮเทค 3D mapping concert ซึ่งได้รวมเหล่าศิลปินที่ถือว่าเป็นไอดอลมาโชว์ภายในศิลปินที่ถือว่าเป็นไอดอลมาโชว์ภายในงาน ก็น่าจะทำให้กระแสมิวสิกมาร์เก็ตติ้งฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง

ส่วนการตอกย้ำการทำตลาดแบบ"สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" กับฟุตบอลคู่พิเศษครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นการดวลแข้งของสุดยอดนักเตะซูเปอร์สตาร์พรีเมียร์ลีก นำโดยแอนดี้ โคล, เอียน รัช,จอห์น บาน พบกับสุดยอดแข้งไทยอย่างปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และตะวัน ศรีปานพร้อมการกระทบไหล่ใกล้ชิดกับแชมป์โลกโมโตจีพี (MotoGP) ปีล่าสุด Jorge Lorenzo เอาใจแฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตก็ยังเป็นไฮไลต์ที่หลายคนประทับใจ

ไม่นับรวมที่บริษัททุ่มอีก 25 ล้านบาท กับกิจกรรมสุดพิเศษแบบ exclusive party ภายใต้ชื่อว่า "F CLUB Fino'n Fiore Club Party" นำกองทัพซูเปอร์สตาร์สุดฮอตของเมืองไทยมากถึง30 คนร่วมงาน เพื่อ "มีตแอนด์กรีต"และร่วมสนุกอย่างเป็นกันเอง โดยประเดิมจัดที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะกระจายไปยัง 4 ภูมิภาค ทั้งพัทยา เชียงใหม่ภูเก็ต ก่อนปิดท้ายที่ขอนแก่น

รวมถึงการเป็นผู้สนับสุนคอนเสิร์ตให้กับวง "แคลช" พรีเซ็นเตอร์ที่ผูกพันกันมาอย่างยาวนานกับยามาฮ่า มีโอ ออโตเมติก กับคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม "CLASH REBIRTH THE FINAL CONCERT" อีกด้วย

ส่วนปีนี้ "ยามาฮ่า" ยังประกาศความชัดเจนที่จะเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยพุ่งเป้าไปที่กิจกรรมใหญ่ในช่วงปลายปี แต่ระหว่างทางอาจจะมีกิจกรรมย่อย ๆ ออกมาสร้างความฮือฮาเป็นระลอก

มาถึงตรงนี้ แม้ว่า 2 ค่ายมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่ "เอ.พี.ออนด้า" และ"ยามาฮ่า" จะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรมาแย่งยอดขาย และการรับรู้ใน "แบรนด์"แต่สุดท้ายผู้ที่รับประโยชน์เต็ม ๆ ก็คือ"ลูกค้า" คนไทยนั่นเอง