การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดขายแตะ 1 ล้านคันไปแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์แต่ละรายต้องกลับมาพิจารณาตัวเลขยอดขายกันใหม่ จนในที่สุดได้ประกาศปรับเป้าหมายการจำหน่ายสำหรับตลาดรวมในปีนี้ขึ้นไปเป็นราว 2 ล้านคัน โดยมีปัจจัยผลักดันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลทางการเกษตรปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจและความคาดหวังด้านเสถียรภาพทางการเมืองที่น่าจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง
อีกปัจจัยที่ส่งเสริมคือ ตัวสินค้า ที่คาดกันว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะส่งสินค้าออกมาทำตลาดกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีในทุกเซ็กเมนต์ รวมถึงข่าวลือเรื่องการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ราคาถูก ที่เคยเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันตลาดรถจักรยานยนต์ให้แตะหลัก 1.8 ล้านคันมาแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ตัดสินใจเปิดตัวรถจักรยานยนต์ราคาต่ำกว่า 3 หมื่นบาท หรือ"อีโคไบค์" มาทำตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เรียกได้ว่ากว่า 50% ของรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวในขณะนั้นมาจากรถกลุ่มนี้เกือบทั้งสิ้น
แต่เมื่อตลาดโตถึงจุดหนึ่งเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น รถจักรยานยนต์ราคาถูกก็ถูกจับมาแต่งหน้าแต่งตัวเพิ่มออปชันเข้าไป รวมถึงเปลี่ยนระบบเครื่องยนต์มาเป็นแบบหัวฉีด ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจนมาเริ่มที่3.4-3.5 หมื่นบาท
ทำให้รถจักรยานยนต์ราคาถูกหายไปจากตลาดอย่างน่าเสียดายแต่เมื่อไม่นานมานี้ ยักษ์ใหญ่วงการ 2 ล้อ อย่างฮอนด้า ออกมาประกาศว่าตลาดรวมรถจักรยานยนต์เมืองไทยในปีนี้จะมากกว่า 2 ล้านคัน และเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตลาดลูกค้าในชนบทคือกลุ่มลูกค้าที่ยังสามารถขยายได้อีก
เมื่อกลุ่มลูกค้าในชนบทกลายเป็นเป้าหมายในการขายใหม่ ทำให้โครงการรถจักรยานยนต์ราคาถูกสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อย จึงถูกนำมาปัดฝุ่นใช้กันอีกครั้ง
สำหรับค่ายรถจักรยานยนต์ที่มีกระแสข่าวว่าสนใจจะทำตลาดรถจักรยานยนต์ราคาถูกในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นผู้ประกอบการเบอร์ 1 อย่างฮอนด้า ซึ่ง จิอากิ คาโตประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ.พี. ฮอนด้า ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าฮอนด้ากำลังศึกษาตลาดนี้อยู่
ส่วนจะเปิดตัวสินค้าเมื่อใดนั้นอยู่ที่ความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งหากพัฒนาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคก็จะผลักดันให้ตลาดรถจักรยานยนต์เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อรรณพ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ.พี. ฮอนด้า ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการพัฒนารถจักรยานยนต์ราคาถูก หรืออีโคไบค์นั้น สิ่งที่จะต้องรักษาเอาไว้ก็คือเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรฐานไอเสีย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ระบุเอาไว้ แต่มองไปที่การปรับอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า ซึ่งยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ในขณะนี้
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่าผู้ประกอบการรายอื่นนอกจากฮอนด้า ก็อยู่ระหว่างการศึกษาการทำตลาดรถจักรยานยนต์ราคาถูกเช่นกัน โดยประเมินว่ามีความต้องการในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ต้องการรถจักรยานยนต์ราคาถูกที่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ติดรถมากมายนัก
ทั้งนี้ มีการประเมินว่าหากมีการเปิดตัวสินค้าที่เหมาะสม และสามารถทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อต่ำลงไปได้ ก็น่าจะผลักดันตลาดรถจักรยานยนต์ให้เติบโตได้อีกปีละ 10% และจะลดสัดส่วนการถือครองเหลือ 2 คนครึ่งต่อ 1 คันในอนาคตอันใกล้