บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด เปิดสนามรุกตลาดไตรมาส 3 เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่พร้อมนกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ New Suzuki Shogun Axelo 125 (ซูซูกิ โชกันแอ๊คเซโล่ 125) รถจักรยานยนต์ครอบครัวระดับพรีเมียมที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ระบบหัวฉีด EPI และ New Suzuki Jelato Jack 999 (นิว ซูซกิ เจลาโต้ แจ๊ค 999) สปอร์ตแฟชั่นออโตเมติก ลุกส์ใหม่ที่สุดแห่งความแรงความเร้าใจ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีดระบบ DCP-FI ที่ให้สมรรถนะที่แรงยิ่งกว่า
ถือฤกษ์ดี วันที่ 9 เดือน 9 ปี (5+4=9) ที่ผ่านมา บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด โดย มร.มาซาโนบุ ไซโต้ ประธานกรรมการ บริษัทไทยซูซุกิมอเตอร์ จำกัด เป็นประธานในพิธีเปิดงานครั้งนี้ ทำการแถลงข่าวเปิดตัวรถจักรยานยนต์ซูซูกิพร้อมกันถึงสองรุ่น ท่ามกลางท่านตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิทั่วประเทศกว่า 1,000 ท่านและกองทัพสื่อมวลชนจากทุกสาขา ที่พร้อมใจเข้าร่วมงานกันคับคั่งจนแนนพื้นที่ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา Hall 3 อย่างยิ่งใหญ่
ท่ามกลางสักขีพยานหลายพนชีวิตที่เข้าร่วมงาน มร.มาซาโนบุ ไซโต้ ได้กล่าวยืนยันถึงความชัดเจนของสองผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่า จะเป็นภาคภูมิใจครั้งใหญ่และเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของ "ซูซูกิ" ทีไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านของเทคโนโลยีและดีไซน์ New Suzuki Shogun Axelo 125 ที่เหนือกว่าด้วยเครื่องยนต์หัวฉีดใหม่ EPI (Klectric Petrol InJection) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจนเรียกว่า นี่คือหนึ่งในเครื่องยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ "ซูซูกิ" ได้คิดค้นมาในรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว โดยเฉพาะประสิทธิภาพของการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เที่ยงตรงกว่า เครื่องเผาไหม้ได้หมดจดยิ่งขึ้น และความประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม ทำให้ New SuZuki Shogun Axelo 125 เป็นรถจักรยานยนต์ที่เหมาะสมในการใช้งานด้านต่างๆ และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคือ New Suzuki Jelato Jack 999 The Boring Killing: เพชฌฆาตความเบื่อ (นิว ซูซูกิ เจลาโต้ แจ๊ค 999) ที่เปลี่ยนลุกส์ใหม่ สไตล์อังกฤษเท่แบบคลาสสิก ด้วยลายกราฟฟิก Jack 999 ที่เปิดตัวภายในแนวคิด ชวนคุณก้าวข้ามความน่าเบื่อหน่ายที่อยู่รายรอบตัวคุณ ด้วยสุดยอดเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ DCP-Fi 125 ซีซี 4 จังหวะ แรง แซงได้ดั่งใจ และที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ E20 หน้าปัดใหม่แบบทรงโดม อ่านข้อมูลง่าย ทราบถึงความแรงคลื่นไฟฟ้าของแบตเตอรี่ดีไซน์ไฟท้ายใหม่โชว์ไฟเบรก สว่างได้โดดเด่นสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น
หลังงานเปิดตัว มร.มาซาโนบุ ไซโต้ประธานกรรมการ และ เลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาดบริษัทไทยซซูกิ มอเตอร์ จำกัด ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงผลิตภัณฑ์ทั้งสองรุ่นนี้ ทั้งในด้านของกลุ่มเป้าหมายว่า ด้วยคุณสมบัติของตัวรถที่มีจุดเด่นต่างกันชัดเจน โดยซูซูกิ โชกัน แอ๊คเชโล่ 125 มีความแข็งแรง ทนทาน และพลังอย่างเหลือเฟือ จึงเหมาะอย่างยิ่งแก่ผู้ใช้งานที่มีการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ด้วยเสมอๆ อีกทั้งด้วยระบบหัวฉีดที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะให้อัตราจ่ายเชื้อเพลิงที่แม่นยำ ก่อเกิดพลังสูงสุดขณะที่มีอัตราความสิ้นเปลืองต่ำอีกด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งแก่การใช้งานประจำวันที่หนักอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นิว ซูซูกิเจลาโต้ แจ๊ค 999 นั้นถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถที่มความต้องการสะท้อนตัวตนที่ชัดเจน ทั้งรูปลักษณ์ที่มีความเป็นแฟชั่นชัดเจน กับการใช้งานที่คล่องแคล่ว มีความหลากหลายในสีสันจึงจะสร้างความโดดเด่นให้แก่ผู้ครอบครองด้วย
ซึ่งจากการเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มร.มาซาโนบุ ไซโต้ เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ยอดการจำหน่ายในช่วงที่เหลือของปี มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 8,000 คัน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 11,000 คันต่อเดือน โดยคาดว่าจะมาจาก โชกัน แอ๊คเซโล่ 125 เดือนละ 2,000 คนและ นิว เจลาโต้ แจ๊ค อีกเดือนละ 1,000 คัน ซึ่งจากการคาดการดังกล่าวจะทำให้ยอดการจำหน่ายของซูซูกิเพิ่มเป็น 100,000 คันภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
ขณะที่ทิศทางการตลาดสำหรับรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยนั้น มร.มาซาโนบุ ไซโต้มองว่า จากตัวเลขการตลาดที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่ารถในกลุ่มครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง แม้ก่อนหน้านี้รถในกลุ่มสกู๊ตเตอร์จะมาแรงอยู่ช่วงหนึ่งก็ตาม แต่ก็เป้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทำให้ประเมินได้ว่ารถในแบบครอบครัวจะยังเป็นผลิตภัณฑ์หลักในตลาดต่อไป อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็นรถจักรยานต์กลุ่มแปลกๆ ที่ไม่คาดว่าจะได้เห็นมากขึ้น เช่น รถออโต้ สำหรับลุยออฟโร้ด หรือรถสำหรับลุยทางวิบากเกียร์อัตโนมัติ
ทั้งนี้เนื่องจากสภาวะปัจจุบันปัจจัยในการเลือกซื้อรถได้เปลี่ยนไป ผู้ซื้อมีความชัดเจนในตัวเองและต้องการรถมอเตอร์ไซค์ที่ตอบสนองความต้องการได้ตรงใจมากที่สุด ซึ่งจากความต้องการที่หลากหลายนี่เอง ซูซูกิ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มากและตอบสนองความต้องการของผู้คนได้มากที่สุดก็พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบในทันที ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานทั้งด้านความแข็งแกร่ง ทนทาน ความว่องไว ปราดเปรียวของรูปลักษณ์เมื่อผสมกับเทคโนโลยีชั้นสูงต่างๆ ที่มีอยู่ในรถจักรยานยนต์เชื่อว่าจะเป็นคำตอบให้แก่ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างโดนใจที่สุด
มร.มาซาโนบุ ย้ำด้วยว่า สิ่งที่ถือเป็นการบ้านหลักของซูซูกิในขณะนี้ การปฎิบัติตามแนวทางที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้คือการพัฒนาจักรยานยนต์ได้ดีที่สุด 3 ด้านคือ ต้องประหยัดน้ำมัน, น้ำหนักเบา และมีข้อดีเหนือคู่แข่ง และจะเน้นด้านการบิรการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดภายใต้คุณภาพสูงสุดของซูซูกิอีกด้วย