ฮอนด้า ตั้งเป้า ใน 10 ปีข้างหน้า เพิ่มส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์แดนอิเหนาให้ได้ 52% มั่นใจกำลังซื้อผู้บริโภคอินโดนีเซียและความต้องการที่ยังทะยานต่อเนื่อง
ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น ประกาศจะแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ในอินโดนีเซียให้ได้ถึง 52% ภายในสิบปีข้างหน้า จากความเชื่อมั่นในกำลังซื้อของผู้บริโภคและความต้องการใช้รถจักรยานยนต์ที่สูงลิ่ว
ทั้งนี้ ฮอนด้า จะเดินหน้าผลิตรถจักรยานยนต์ เพื่อเป็นทางเลือก การเดินทางท่ามกลางสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก สำหรับชาวอินโดนีเซียทุกระดับ โดยการจราจรติดขัด กลายเป็นปัญหาปวดหัวอย่างมากสำหรับกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ทั้งยังก่อต้นทุนทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนเมืองสำคัญๆ หลายแห่งก็มีปัญหาจราจรติดขัดเช่นกัน รวมถึง เมืองยอร์คจาการ์ตา และ สุราบายา ซึ่งทั้งสองเมืองนี้ตั้งอยู่บนเกาะชวา
ความต้องการรถจักรยานยนต์ในอินโดนีเซียสูงมาก และเราจะเพิ่มกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการและอำนาจการซื้อของผู้บริโภคในอินโดนีเซีย นายคริสตาโน หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ แอสตรา ฮอนด้า มอเตอร์ ของอินโดนีเซีย กล่าว
ด้าน ยามาฮ่า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่และมียอดขายขับเคี่ยวกับฮอนด้ามาตลอด คาดการณ์ว่า จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ และมีแผนจะผลักดันการตลาด โดยอาศัยจุดเด่นด้านมาตรฐานการบริการ
เมื่อปี 2553 ฮอนด้า ครองส่วนแบ่งตลาด 46% ด้วยปริมาณยอดขาย 3.4 ล้านคัน ส่วน ยามาฮ่า ครองส่วนแบ่งตลาด 45% ด้วยยอดขาย 3.3 ล้านคัน เมื่อรวมกันแล้ว ถือเป็นผู้จัดหารถจักรยานยนต์ในสัดส่วนเกือบ 90% ของความต้องการโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ฮอนด้า คาดหวังว่าจะครองส่วนแบ่งตลาดในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 52% ด้วยยอดขายรายปีที่ 8.2 ล้านคัน แต่ ยามาฮา กลับคาดการณ์ว่า ยอดขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.3%