ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > เวสป้าขยายดีลเลอร์ 50 แห่งขาย 20 เดือนโกยยอด 4.5 พันคัน
เวสป้าขยายดีลเลอร์ 50 แห่งขาย 20 เดือนโกยยอด 4.5 พันคัน
ที่มา - นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 - 16 ต.ค. 2554

"เวสป้า" โวบริษัทแม่ปลื้ม ยอดขายโตเร็วสุดในอาเซียน เปิดขายครบ 20 เดือน ทำยอดขายเพิ่มเท่าตัวทะลุ 4.5 พันคัน ขยายดีลเลอร์ครบ 50 แห่งทั่วประเทศ เชื่อตลาดรถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีตลาดรวมยอดขาย 90,000 คันฝันขึ้นแท่นเบอร์ 1 มอเตอร์ไซค์นำเข้าระดับพรีเมี่ยม

นางสาวพรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ "เวสป้า" และ "ปิอาจิโอ"เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมาว่า มีความน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากยอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในด้านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นครบ 50 แห่ง แบ่งเป็นผู้จำหน่ายแบบสแตนด์อะโลน 15 แห่ง และผู้จำหน่ายแบบมัลติแบรนด์อีก35 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วประเทศ

โดยในปีที่ผ่านมามียอดขาย 2,000 คัน ในปีนี้บริษัทก็ตั้งเป้ายอดขายที่ 4,000-4,500 คัน แบ่งเป็นยอดขายหลักมาจากรถจักรยานยนต์เวสป้า รุ่น "LX 150" นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นใหม่ ๆ นำเสนอให้กับลูกค้าด้วย โดยในเดือนนี้จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์เวสป้ารุ่น "เวสป้า ซิกตี้ไฟว์ แอนนิเวอซารี่ ลิมิเต็ดอิดิชั่น" 2 รุ่นคือ "เวสป้าเอส 150 ไออี" (vespa S 150 ie) และ"เวสป้า แอลเอ็กซ์ 150 ไออี" (vespa LX 150 ie) ในโอกาสฉลองครบ 65 ปีของเวสป้า ซึ่งผลิตเพียง 265 คัน และมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

ปีนี้บริษัทได้ใช้งบฯการตลาดทั้งปีถึง50 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมการตลาดทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ การจัดกิจกรรมอีเวนต์ และโรดโชว์ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ลูกค้า รวมถึงการสนับสนุนดีลเลอร์ในการตกแต่งโชว์รูมและล่าสุดมีการจัดแคมเปญในการดูแลลูกค้าในช่วงน้ำท่วม ด้วยการลดราคาอะไหล่ให้ลูกค้าถึง 50% ด้วย

ด้านภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์แบบพรีเมี่ยมที่มีราคาจำหน่ายมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไปนั้น ในปีนี้มียอดขายประมาณ 90,000 คัน มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปีหน้าก็จะมีการเติบโตที่ประมาณ10% เช่นเดียวกัน

สำหรับการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงนั้น บริษัทมั่นใจว่าจากภาพลักษณ์ของสินค้าที่เป็นรถจักรยานยนต์แบบกึ่งย้อนยุคเกรดพรีเมี่ยมที่มีราคาจำหน่าย50,000 บาทขึ้นไป ทำให้ไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจน แต่บริษัทก็ยังคงต้องสร้างทางเลือกให้ลูกค้าด้วยการลดเงินดาวน์เริ่มต้นลงจาก 20% เป็น 15% เพื่อทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น และมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

"แม้เราจะไม่มีคู่แข่งทางตรง แต่รถจากผู้ผลิตญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ๆ ก็เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้ตลาดมีความคึกคักซึ่งแม้จะมีการแข่งขันที่สูง แต่ก็ถือว่าเราอยู่ในตลาดที่มีความแข็งแรง ซึ่งแม้จะเริ่มจำหน่ายรถได้เพียง 20 เดือน แต่ก็มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทำให้บริษัทแม่ค่อนข้างพอใจ เนื่องจากในภูมิภาคนี้เรามีราคาจำหน่ายต่ำที่สุดและในอนาคตก็คาดว่าเราจะสามารถเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์นำเข้าได้" น.ส.พรนฎากล่าว

สำหรับตลาดอาเซียนนั้นถือเป็นภูมิภาคที่บริษัทแม่ในประเทศอิตาลีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ลูกค้ามีความต้องการและกำลังซื้อรถจักรยานยนต์สูง โดยได้เข้ามาทำตลาดแล้วในประเทศไทย,เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์,ไต้หวัน, เกาหลี ,ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยประเทศเวียดนามมียอดขายสูงสุด รองลงมาคืออินโดนีเซียและไทย และประเทศไทยถือว่ามีการเติบโตในด้านยอดขายสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค