ชี้น้ำมันแพงดันยอดขายมอเตอร์ไซค์ หลังผู้บริโภคหันใช้รถมอเตอร์ไซค์มากขึ้น ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายยังทรงตัว โตขึ้นแค่ 1% ขณะที่เดือนมิถุนายน โตขึ้น 2% หรือกว่า 3 พันคัน ไทเกอร์ และ ยามาฮ่า สองยี่ห้อที่มียอดขายโต ขณะที่รายอื่นยอดขายร่วง คาดตลาดรวม 2.1 ล้านคัน
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในข่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามียอดจำหน่ายรวมทุกยี่ห้อในช่วง 6 เดือนแรกตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน จำนวน 1,037,635 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขาย 1,031,577 คัน เพิ่มขึ้น 6,058 คัน ในอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ยอดขายรวมในเดือนมิถุนายนนั้นมีจำนวน 182,440 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขาย 178,880 หรือเพิ่มขึ้น 3,560 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 2%
ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ประจำปี 2547/2548
จากการวิเคราะห์สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ของบริษัท เอ.พี.ฮอนด้าพบว่าในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น
ตลาดรถจักรยานยนต์มีจำนวนลดลงจากเดือนพฤษภาคมจากจำนวน 196,599 คัน ลดลงเหลือ 182,440 คัน ในเดือนมิถุนายน ซึ่งหากว่ามองสภาพการขายโดยรวมตั้งแต่ต้นปีนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ทั้งนี้ที่ผ่านมายอดขายรถจักรยานยนต์ในเดือนเมษายนนั้นมียอดขายลดลงเกือบทั้งหมด สาเหตุเนื่องจากเดือนเมษายนนั้นมีจำนวนวันของการขายรถน้อยลงเนื่องจากมีการหยุดติดต่อกันหลายวัน เดือนพฤษภาคม มียอดขายจำหน่ายเพิ่มขึ้น 65,422 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน และล่าสุดเดือนมิถุนายนตลาดรวมลดลงจากเดือนพฤษภาคม 14,119 คัน อาจจะเป็นผลเนื่องจากสภาพการซื้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นการผันผวนการซื้อขายแต่ละเดือน ซึ่งถ้ามองตัวเลขภาพรวม 6 เดือนแรกถือว่าเป็นปกติใกล้เคียงกับครึ่งปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้แล้วในสภาวะที่น้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากกลางปีที่แล้วจาก 20 บาทต่อลิตรเป็น 25 บาทต่อลิตร คาดว่าอาจจะทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังมีความคึกคักมากขึ้น จนทำให้ยอดขายรวมเข้าสู่ระดับ 2.1 ล้านคัน โดยรถจักรยานยนต์จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคจะหันมาใช้มากขึ้นในสภาะที่น้ำมันราคาแพง และที่ผ่านมาผู้ผลิตได้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้มีการสิ้นเปลืองน้ำมันลดลงอีกด้วย
สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ (แยกตามประเภทรถ) ในเดือนมิถุนายนนั้นพบว่า มียอดขายดังนี้
ยอดขายรถจักรยานยนต์ประจำเดือนมิถุนายน 2548
ยอดรวม = 182,440 คัน
อันดับ |
ประเภท |
ยอดขาย |
เพิ่ม/ลด* |
1 |
รถครอบครัว |
149,565 |
1% |
2 |
รถครอบครัวกึ่งสปอร์ต |
12,785 |
-17% |
3 |
รถสปอร์ต |
1,094 |
-26% |
4 |
รถสกู๊ตเตอร์ |
18,176 |
37% |
5 |
รถออฟโรด
** |
820 |
-0- |
รวม | 182,440 |
5 อันดับรถจักรยานยนต์ยอดนิยมในเดือนมิถุนายน 2548
อันดับ |
ยี่ห้อ-รุ่น |
ยอดขาย
(คัน) |
1 |
ฮอนด้าเวฟ 100 | 72,055 |
2 |
ซูซูกิ สแมซ จูเนียร์ | 23,532 |
3 |
ฮอนด้าเวฟ 125 อาร์ | 21,904 |
4 |
ยามาฮ่า มีโอ | 12,923 |
5 |
ฮอนด้า เวฟ แซด | 7,498 |
ด้านยอดขายรวมในช่วง 6 เดือนแรกนั้น ฮอนด้า มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งด้วยจำนวน 720,020 คัน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ยามาฮ่า มียอดขาย 147,879 คันเติบโตเพิ่มขึ้น 11% ซูซูกิ อันดับสามยอดขายจำนวน 111,402 คัน เติบโตลดลง 12% ไทเกอร์ จำนวน 36,955 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 111% คาวาซากิ 12,816 คัน เติบโตลดลง 1% เจอาร์ดี จำนวน 4,628 คัน เติบโตลดลง 39% และรถจักรยานยนต์ยี่ห้ออื่นๆ 3,935 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 465%
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ไทเกอร์ ซึ่งเป็นรถจักรยายนต์สัญชาติไทยมีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย ยามาฮ่า ขณะที่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อใหม่ๆ นั้นก็ได้เข้ามามีบทบาท และจำนวนยอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อที่มียอดขายลดลงมากที่สุดคือ เจอาร์ดี รถจักรยานยนต์จากมาเลเซีย ตามด้วย ซูซูกิ คาวาซากิ และ ฮอนด้า