ตลาดรถสองล้อทรงตัว ยอดขายเดือนแรกเพิ่มแค่ 805 คัน ผู้ผลิตและนำเข้ารถกระอักเกือบทุกค่าย ยอดขายทรุด โดยไทเกอร์ รถสัญชาติไทยหนักสุดขายได้แค่ 118 คัน ขณะที่ยามาฮ่าดาวรุ่งในอดีตยอดขายเริ่มร่วง เผยยอดรถยึดสูงขึ้นจนน่าใจหายจนน่าเป็นห่วง
รายงานยอดขายรถจักรยานยนต์ในเดือนมกราคม 2550 จาก บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด พบว่า ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนแรกของปี 2550 ยังทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยพบว่ามียอดขาย 150,672 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2549 เพียง 805 คันหรือประมาณ 0.5% เท่านั้น โดยพบว่าผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ (ยกเว้น ฮอนด้า) ต่างมียอดขายลดลงมาก ไม่เว้นแม้แต่ยามาฮ่า ค่ายที่มียอดขายเติบโตมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็มียอดขายลดลงมากถึง 7% โดยมียอดขายเพียง 34,567 คัน ส่วนค่ายที่มียอดขายลดลงมากที่สุดคือ ไทเกอร์ รถจักรยานยนต์สัญชาติไทยที่มียอดขายลดลงมากถึง 91% โดยมียอดขายเพียง 118 คันเท่านั้น
สำหรับคาวาซากิ ซึ่งมียอดขายลดลงมาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีก็มียอดขายลดลงเหลือเพียง 567 คัน หรือลดลง 58% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเจอาร์ดี มียอดขายลดลง 35% หรือมีจำนวนยอดขาย 371 คัน ซูซูกิมียอดขายลดลง 23% และแพล็ตตินัม ค่ายรถจักรยานยนต์นำเข้าจากจีนมียอดขายเพียง 352 คันลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในช่วงปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2550 นี้ยังอยู่นาภาวะที่ทรงตัว อันเป็นผลจาก ปัจจัยลบด้านต่างๆ และการเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวของตลาดรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้บรรดาผู้บริหารในแวดวงจักรยานยนต์ ไฟแนนซ์ รวมถึงผู้ให้ประมูลและจำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสองต่างก็มองเห็นว่าตลาดรถจักรยานยนต์กำลังจะมีปัญหา โดยพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดและปล่อยให้รถถูกยึดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้นางสาวเสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ประมูลตลาดรถจักรยานยนต์มือสองนั้นพบว่า จำนวนรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดมาในแต่ละสัปดาห์นั้น มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการและผู้ค้ารถจักรยานยนต์ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด และมีเงื่อนไขที่ง่ายต่อการซื้อ ทำให้ลูกค้าบางส่วนปล่อยให้รถคันเก่าที่ผ่อนชำระอยู่ถูกยึดไปเพื่อต้องการซื้อรถคันใหม่ ขณะที่ผู้ซื้อบางรายไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน โดยรถจักรยานยนต์มือสองที่ถูกยึดมานี้ มีราคาที่แตกต่างจากรถใหม่ค่อนข้างมาก กล่าวคือ รถใหม่ราคา 4-6 หมื่นบาท ขณะที่รถมือสองมีราคาเพียง 1 หมื่นกว่าบาท และมีสภาพใกล้เคียงกับรถใหม่ บางคันจดทะเบียนไม่ถึง 1 ปี ทำให้รถจักรยานยนต์มือสองมีโอกาสในการทำตลาด และผู้ซื้อก็สามารถเลือกรถได้หลากหลายมากขึ้น
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพตลาดรถจักรยานยนต์เดือนแรกของปี 50 เปิดประเดิมด้วยยอดการจดทะเบียนของผู้ใช้จำนวน 150,672 คัน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 101% แต่เติบโตขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 120% ในจำนวนนี้เป็นยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจำนวน 106,229 คัน คิดเป็นสัดส่วนตลาด 71% เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 108% เมื่อแบ่งการจำหน่ายออกเป็นแต่ละประเภทพบว่า สัดส่วนตลาด 52% หรือจำนวน 77,925 คัน ยังคงเป็นเค้กก้อนใหญ่สำหรับรถครอบครัว ส่วนรถแบบ เอ.ที. มีสัดส่วนตลาดที่ 44% และรถยอดนิยมอันดับ 1 ประจำเดือน ม.ค. ยังคงเป็นเป็นฮอนด้า เวฟ 100 มียอดขาย 46,963 คัน ส่วนรถยอดนิยมในกลุ่ม เอ.ที. อันดับ 1 ยังคงเป็นรุ่นฮอนด้าคลิก ที่จำนวน 25,926 คัน
จากวิเคราะห์สภาพการจำหน่ายในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย เปิดประเดิมเดือนแรกด้วย การกระตุ้นการจำหน่ายของหลายค่ายผู้ผลิต รวมทั้งการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ จากค่ายผู้ผลิตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ประเภทต่างๆ ในเดือนมกราคม 2550 มีดังต่อไปนี้ คือ