ร่วมงานกับเรา
ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ > ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ครึ่งปีแรกของปี 2551
ตลาดมอเตอร์'ไซค์ครึ่งปีแรกขยายตัว 3% ส่วนมิ.ย.สร้างสถิติสูงสุดรอบ 21 เดือน
ที่มา – นสพ.สยามกีฬารายวัน วันที่ 18 ก.ค.51

ตลาดรถยนต์จักรยานยนต์ผ่านพ้นช่วงครึ่งแรกของปีมีปริมาณยอดจดทะเบียนสะสมขยายตัว 3% ด้วยจำนวนรวมเกินกว่า 8.7 แสนคัน โดยกลุ่มรถแบบครอบครัวมีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดเนื่องจากปัจจัยด้านความประหยัด โดยเฉพาะรถแบบเครื่องยนต์หัวฉีด ซึ่งให้ความประหยัดน้ำมันสูงมีการขยายตัวมากที่สุดถึง 22% ส่วนยอดจดทะเบียนเฉพาะเดือน มิ.ย. สร้างสถิติสูงสุดในรอบ 21 เดือน

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์โดยรวมในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีปริมาณสะสมรวมทั้งสิ้น 872,644 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 848,055 คันแล้ว มีปริมาณเพิ่มขึ้น 24,589 คัน หรือมีอัตราการขยายตัว 3% ทั้งนี้เป็นผลมาจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยเฉพาะการขยับขึ้นของราคาผลผลิตทางด้านการเกษตร ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาด ที่โดยส่วนใหญ่แล้วอยู่ในภาคการเกษตรนั้น มีรายได้และกำลังซื้อสูง

นอกจากนี้ จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ขยับตัวพุ่งสูงขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี ยังเป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้กลุ่มผู้ใช้รถ หันมาให้ความสนใจนิยมใช้รถจักรยานยนต์มากขึ้น เนื่องจากความประหยัดน้ำมัน

สำหรับรายละเอียดของการจดทะเบียนนั้นในกลุ่มรถประเภทหลักของตลาดต่างมีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยในกลุ่มรถแบบครอบครัว มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด คือ 4% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยปริมาณการจดทะเบียนถึง 442,106 คัน และที่สำคัญเป็นกลุ่มรถประเภทเดียวเท่านั้นที่มีสัดส่วนตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเป็น 51% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีสัดส่วนตลาด 50% ทั้งนี้เป็นเพราะว่ารถจักรยานยนต์แบบครอบครัวมีคุณสมบัติเด่นด้านการประหยัดน้ำมันสอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถแบบครอบครัวที่ติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ซึ่งให้ความประหยัดน้ำมันเป็นอย่างสูงอย่างมากฮอนด้า รุ่น เวฟ 125i นั้น มีอัตราเติบโตมากที่สุดในกลุ่มรถประเภทครอบครัว คือขยายตัว 22% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการบริโภคที่หันมาให้ความนิยมในรถแบบเครื่องยนต์หัวฉีด

ขณะที่กลุ่มรถประเภทอื่นๆ อย่างรถจักรยานยนต์แบบ เอ.ที.หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ มีปริมาณการจดทะเบียน 396,061 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 45% เติบโตเพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 2% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 25,272 คัน สัดส่วนตลาด 3% เติบโตลดลง 2% รถแบบสปอร์ต 5,789 คัน สัดส่วนตลาด 1% เติบโตเพิ่มขึ้น 3% และรถประเภทอื่นๆ 3,416 คัน

นายธีระพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับแนวโน้มตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง คาดการณ์ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันสูง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคใส่ใจกับความประหยัด และเป็นแรงกระตุ้นให้มีการหันมานิยมใช้รถจักรยานยนต์มากยิ่งขึ้นพร้อมกันนั้นทาง ฮอนด้า ได้พลิกวิกฤติราคาน้ำมันสูงให้เป็นโอกาสสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถ ด้วยการพัฒนาระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดใหม่ล่าสุด PGM-FI(Programmed Fuel Injection) เพื่อติดตั้งในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ โดยมีคุณสมบัติเด่นคือทำให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งให้ไอเสียสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และมีสมรรถนะสูงขึ้น อันเป็นการปฏิวัติสู่การขับขี่ยุคใหม่ ทั้งยังเป็นช่วยส่งเสริมและสร้างความตื่นตัวให้ตลาด

ส่วนปริมาณการจดทะเบียนเฉพาะเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นการสร้างสถิติยอดจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 21 เดือน คือนับตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2549 เป็นต้นมา โดยมีปริมาณทั้งสิ้งถึง 163,501 คัน และเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้วมีอัตราการขยายตัว 7%