รถจักรยานยนต์ปิดยอด 3 ไตรมาสทะลุ 1.4 ล้านคัน เติบโต 23%จากปีที่ผ่านมา นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้าเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2553 พบว่ามียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,404,626 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเติบโตที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการทุกค่ายต่างช่วยกันกระตุ้นการเติบโตของตลาด ด้วยตัวสินค้าใหม่หลายต่อหลายรุ่น โดยเฉพาะในส่วนของฮอนด้าที่มีการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ขึ้นมารองรับความต้องการที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการเติบโตของรถจักรยานยนต์ เอ.ที. หรือออโตเมติกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เห็นได้จากยอดจำหน่ายที่มากถึง 716,848 คัน คิดเป็นสัดส่วนการขาย 51% ขณะที่รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวมีสัดส่วนที่ลดลงเหลือ 46% หรือคิดเป็นยอดขาย 643,927 คัน รถครอบครัวกึ่งสปอร์ตมียอดขาย18,718 คัน คิดเป็นสัดส่วน 1% แบบสปอร์ต 6,998 คัน และแบบออฟโรดรวมประเภทอื่นๆ 18,135 คัน
ขณะที่ฮอนด้ายังครองความนิยมในตลาดรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดการจดทะเบียนในช่วง 9 เดือนแรกถึง954,901 คัน คิดเป็น 68% ของตลาด ตามมาด้วยยามาฮ่า 366,499 คัน คิดเป็นสัดส่วน 26% ซูซูกิ 51,070 คัน อัตราครองตลาด 4% คาวาซากิ 16,634 คันอัตราครองตลาด 1% เจอาร์ดี 237 คันแพลตตินั่ม 565 คัน ไทเกอร์ 1,577 คันและอื่นๆ 13,143 คัน
"บรรดาค่ายผู้ผลิตต่างโหมกระตุ้นและสร้างความตื่นตัวให้กับตลาด โดยเฉพาะค่ายฮอนด้าเอง ด้วยในฐานะของผู้นำตลาดได้เตรียมส่งความหลากหลายของสินค้าในทุกโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นในประเภทรถครอบครัว รถ เอ.ที. และล่าสุดกับรถสปอร์ต เพื่อเติมเต็มในทุกส่วนของความต้องการของผู้บริโภค" นายธีรพัฒน์ กล่าว
สำหรับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน ก.ย. 2553 พบว่ามียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 152,366 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า 102,672 คัน คิดเป็น67% ของตลาด ตามมาด้วยยามาฮ่า40,716 คัน คิดเป็น 27% ซูซูกิ 5,480 คันคิดเป็น 4% คาวาซากิ 1,642 คัน เจอาร์ดี 11 คัน แพลตตินั่ม 87 คัน ไทเกอร์ 177 คัน และอื่นๆ 1,581 คัน